คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้ง 2 ข้อ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาเรื่องเขตพื้นที่ทางทะเลที่ไทย มาเลเซีย และเวียดนามอ้างสิทธิทับซ้อนกัน และให้เสนอขอความเห็นชอบต่อรัฐสภา
2. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และชี้แจงรัฐสภาเกี่ยวกับกรอบการเจรจาตามข้อ 1
ข้อเท็จจริง
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า
1. ประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนามได้เจรจาเรื่องเขตพื้นที่ทางทะเลที่ไทย มาเลเซีย และเวียดนามอ้างสิทธิทับซ้อนกัน (Tripartite Overlapping Claims Area-TOCA) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2541 และยังไม่บรรลุข้อตกลงในการประชุมสองครั้งที่ผ่านมา โดยทั้งสามประเทศตกลงที่จะทำพื้นที่พัฒนาร่วม 3 ฝ่ายในบริเวณพื้นที่ระหว่างเส้นประกาศเขตไหล่ทวีปของเวียดนามเมื่อปี 2514 และเส้นขอบทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย นอกจากนี้ ในการประชุม ครั้งที่ 2 ที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานอย่างไม่เป็นทางการ (informal working group) เพื่อร่วมกันพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมของการพัฒนาร่วมในรายละเอียด และเสนอรายงานต่อที่ประชุมในการประชุม ครั้งต่อไป
2. มาเลเซียและเวียดนามได้แจ้งความประสงค์จะให้มีการดำเนินการเจรจาเรื่องเขตพื้นที่ทางทะเล ที่อ้างสิทธิทับซ้อนกันต่อเพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้วเห็นควรเริ่มเจรจาต่อโดยเร็วเช่นกัน เพื่อนำไปสู่กระบวนการทำหนังสือสัญญา เนื่องจากประเทศไทยและมาเลเซียได้แสวงประโยชน์ในทรัพยากรปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียแล้ว และควรหาข้อยุติที่เป็นธรรมสำหรับกรณีแหล่งทรัพยากรในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย คาบเกี่ยวต่อเนื่องกับพื้นที่ส่วนที่เวียดนามอ้างสิทธิ เพื่อแสวงประโยชน์ทรัพยากรปิโตรเลียมในบริเวณดังกล่าว อันจะมีส่วนช่วยในการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของชาติ เพื่อให้สามารถดำเนินการเจรจาเรื่องเขตพื้นที่ทางทะเลดังกล่าวต่อไปได้ และเนื่องจากหนังสือสัญญาดังกล่าวน่าจะเป็นหนังสือสัญญาซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาตามความในวรรคสองของมาตรา 190 แห่งรัฐธรรมนูญฯ ดังนั้น ก่อนการเจรจาในขั้นตอนต่อไป คณะรัฐมนตรี จะต้องดำเนินการตามวรรคสามของมาตรา 190 กล่าวคือ การให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และต้องชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับหนังสือสัญญานั้น และต้องเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบด้วย จึงได้เสนอร่างกรอบ การเจรจาฯ ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างกรอบการเจรจา
ให้เจรจากับมาเลเซีย และเวียดนามเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับเขตพื้นที่ทางทะเลที่ไทย มาเลเซียและเวียดนามอ้างสิทธิทับซ้อนกัน เพื่อให้ประเทศไทยได้สิทธิอธิปไตย เขตอำนาจ และประโยชน์อื่นที่พึงมีตามกฎหมายระหว่างประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 สิงหาคม 2552 --จบ--