ของบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 2, 2009 14:50 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2551 ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม พิษณุโลก และจังหวัดภูเก็ต รวม 3 จังหวัด โดยจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมง ในวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 64,922,305 บาท ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการเกษตร (ด้านพืช) วงเงิน 64,827,305 บาท กรมประมง (ด้านประมง) วงเงิน 95,000 บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการด้วย

สาระสำคัญของเรื่อง

1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ในระหว่างเดือนตุลาคม 2551 - กุมภาพันธ์ 2552 ได้เกิดภัยธรรมชาติได้แก่ ฝนทิ้งช่วง ภัยหนาว พายุ และคลื่นลมแรง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ดังกล่าวข้างต้น มีเกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ จำนวน 11,612 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 106,975.75 ไร่ เรือล่มสามารถซ่อมแซมได้ 1 ลำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นสมควรให้ความช่วยเหลือ 64,922,304.50 บาท ซึ่งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) ได้มีมติให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานตามขั้นตอนต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว

2. สำนักงบประมาณพิจารณาแล้วเห็นว่า การให้ความช่วยเหลือด้านพืชไม่สามารถดำเนินการเบิกจ่ายจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ได้ เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือใช้ระยะเวลานานเกินกว่าที่ระเบียบกำหนด (3 เดือน) อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ประสบภัยธรรมชาติ แม้ว่าสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือจะล่วงเลยระยะเวลาเร่งด่วนเฉพาะหน้าแล้วก็ตาม แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยดังกล่าวตามแนวทางเดิมที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เคยปฏิบัติมาแล้ว จึงเห็นสมควรสนับสนุนงบประมาณตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอทำความตกลงมาในวงเงินรวม จำนวน 64,922,305 บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ รวม 3 จังหวัด ดังกล่าว โดยจ่ายผ่าน ธ.ก.ส. โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ทั้งนี้ ในกรณีเกิดภัยพิบัติครั้งต่อไป ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการดำเนินการสำรวจความเสียหายและขั้นตอนการดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณอย่างเร่งด่วน และไม่ควรปล่อยให้เกินระยะเวลา 3 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 กันยายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ