ขออนุมัติต่ออายุสัญญาสัมปทานการดำเนินงานของผู้ประกอบการเอกชน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 9, 2009 14:06 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ขออนุมัติต่ออายุสัญญาสัมปทานการดำเนินงานของผู้ประกอบการเอกชน ที่สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการต่ออายุสัญญาสัมปทานการดำเนินงานของผู้ประกอบการเอกชนที่สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง จำนวน 6 ราย ดังนี้ 1. สถานี A บริษัท สยามชอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด (SSS) 2. สถานี B บริษัท อิสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (ESCO) 3. สถานี C บริษัท เอเวอร์กรีนคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด (ECTT) 4. สถานี D บริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด (TIFFA) 5. สถานี E บริษัท ไทยฮันจิน โลจิสติกส์ จำกัด (THL) และ 6. สถานี F บริษัท เอ็น.วาย.เค.ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด (NICD) เป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2549 ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2554 โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมสัมปทานเฉลี่ยที่ 56.40 บาทต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ทุกปีสัมปทาน โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเดิม ตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการนับระยะเวลาเริ่มต้นต่อเนื่องจากวันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเดิมและเก็บอัตราค่าธรรมเนียมสัมปทานในอัตราใหม่ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

ทั้งนี้ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับไปพิจารณาดำเนินการตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่า เมื่อคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบในเรื่องนี้แล้วสัญญาที่จัดทำขึ้นใหม่นี้ก็จะสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2554 การรถไฟแห่งประเทศไทยในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการต้องพิจารณาว่า หากยังประสงค์ให้เอกชนดำเนินงานที่สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบังต่อไปก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาถึงระยะเวลาในการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ด้วย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กันยายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ