เรื่อง การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้ง 4ข้อดังนี้
1. อนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา และนำเสนอบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาให้ความเห็นชอบ เพื่อดำเนินการให้มีผลใช้บังคับต่อไป
2. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญขอให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลพินิจในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ได้รับมอบหมายอื่นลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
4. เมื่อรัฐสภาเห็นชอบตามข้อ 1 แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือ แจ้งประเทศภาคีอื่น ๆ ว่าประเทศไทยได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อให้บันทึกความเข้าฯ มีผลใช้บังคับ
ข้อเท็จจริง
กระทรวงพาณิชย์เสนอว่า
1. ในปี 2549 อาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีนเห็นชอบร่วมกันให้มีการจัดทำความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเชิงพาณิชย์ร่วมกัน และส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีนในอนาคตในรูปแบบของบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและปรับถ้อยคำใน ร่างบันทึกความเข้าใจหลายครั้งจนกระทั่งสามารถหาข้อสรุปเป็นร่างสุดท้ายได้ในเดือนมิถุนายน 2552 โดยทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าหมายให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในช่วงระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนตุลาคม 2552 กระทรวงพาณิชย์จึงได้นำร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวขึ้นประกาศบนเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552
2. เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก่อนที่จะให้สัตยาบันเพื่อแสดงเจตนาให้บันทึกความเข้าใจฯ ตามข้อ 1 มีผลผูกพัน จึงได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของเรื่อง
บันทึกความเข้าใจนี้ครอบคลุมความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การจัดตั้งกลไกการประชุมของหัวหน้าหน่วยงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศสมาชิก การประสานประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิใน
ทรัพย์สินทางปัญญา การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์เกี่ยวกับการตรวจสอบคำขอและการจัดเก็บฐานข้อมูล รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาที่สำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาคมโลก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กันยายน 2552 --จบ--