มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ปี 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 16, 2009 11:47 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ปี 2551 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้

1. กรณีสมาชิกเสียชีวิตให้จำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเป็นสูญ รัฐบาลรับภาระชำระหนี้ให้แทน

2. กรณีสมาชิกรายที่ประสบภัยอย่างร้ายแรงจนทำให้พื้นที่ทำกินและผลผลิตเสียหาย ขาดรายได้ที่จะนำส่งชำระหนี้ได้ สำหรับหนี้เงินกู้เดิมที่มีอยู่ก่อนประสบภัยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้เป็นเวลา 3 ปี และงดเก็บดอกเบี้ยจากสมาชิก โดยรัฐบาลจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร

สำหรับงบประมาณที่จะต้องจ่ายชดเชยให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเห็นควรให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้

1. เงินชดเชยปีบัญชี 2551 ให้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 61,720,544 บาท ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 คงเหลือจากการจ่ายชดเชยดอกเบี้ยแทนสมาชิกที่ประสบอุทกภัย ปี 2549 จำนวน 169,134,319 บาท และจ่ายชดเชยดอกเบี้ยแทนสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 43,355,349 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 274,210,212 บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

2. เงินชดเชยปีบัญชี 2552-2553 เป็นเงินปีละประมาณ 283,035,800 บาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่เหลือจากการจ่ายดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายแล้ว ตามความจำเป็นและเหมาะสมเป็นอันดับแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ต่อไป

ทั้งนี้ เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) ตรวจสอบรายละเอียดจำนวนสมาชิก และวงเงินค่าชดเชยให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แล้วจึงขอทำความ ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง โดยการให้ความช่วยเหลือจะต้องเป็นกรณีที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า

1. ในปี 2551 เกิดอุทกภัยขึ้นหลายครั้งในหลายพื้นที่ ซึ่งแต่ละครั้งก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของเกษตรกร ส่งผลให้พื้นที่ทำการเกษตรและพืชผลเสียหายเป็นจำนวนมาก

2. จากการสำรวจข้อมูลด้านหนี้สินของสมาชิกที่มีอยู่กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรพบว่า มีสมาชิกเสียชีวิตจากอุทกภัย จำนวน 2 ราย มูลหนี้ 87,570 บาท และพื้นที่ทำกิน ผลผลิตเสียหายขาดรายได้ที่จะนำส่งชำระหนี้ให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร รวม 51 จังหวัด 279 สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร สมาชิก 46,603 ราย มีต้นเงินเป็นหนี้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ก่อนวันเกิดอุทกภัย 2,984.394 ล้านบาท จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชดเชย 283.036 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่หนี้ตามสัญญาหนี้เงินกู้เดิมที่เคยได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการครั้งก่อน

3. สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรได้พิจารณาขยายเวลาการชำระหนี้ให้กับสมาชิก โดยงดเก็บดอกเบี้ย ซึ่งหากสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรไม่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยจากรัฐบาล จะทำให้ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจบริการสมาชิกและ ไม่สามารถชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้ได้ เพราะเงินทุนส่วนใหญ่มาจากการกู้เงินจากภายนอกและเงินรับฝากจากสมาชิกที่มีภาระต้องจ่ายคืน

4. มาตรการที่นำเสนอเป็นมาตรการเดียวกับมาตรการเดิมที่ให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยปี 2545 ปี 2549 และปี 2550 ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และเป็นมาตรการเดียวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ประสบอุทกภัย ปี 2551 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กันยายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ