คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (ฉบับที่...) พ.ศ. ....ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ แล้วมีมติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่ายความมั่นคง) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) เป็นประธาน ที่เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (ฉบับที่...) พ.ศ. .... และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณา และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญสรุป ดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมคำนิยามคำว่า พ้นราชการทหารประเภทที่ 2,อำเภอ ที่ว่าการอำเภอ,นายอำเภอ,จังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด
2. ให้บุคคลซึ่งต้องลงบัญชีทหารกองเกินสามารถลงบัญชีทหารกองเกินได้ ณ ที่อำเภอ หรือเขตที่มีภูมิลำเนา
3. การเรียกคนเข้ากองประจำการเป็นตำรวจ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำได้โดยตกลงกับกระทรวงกลาโหม
4. ให้มีการแก้ไขทะเบียนกองประจำการในกรณีมีความจำเป็นได้ รวมทั้งแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมการออกหนังสือสำคัญประจำตัวทหารกองประจำการให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน
5. ให้บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อลงบัญชีทหารกองเกินแล้วไม่เรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ในยามปกติ
6. ให้การลงบัญชีทหารกองเกินสามารถลงทะเบียนทหารกองเกินในวันเดียวกับวันที่ทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรก ณ ที่ว่าอำเภอ หรือเขตท้องที่ที่มีภูมิลำเนา
7. ให้บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ไม่เป็นผู้ที่ได้รับการผ่อนผันการเข้ารับราชการทหาร
8. ให้กระทรวงกลาโหมมีอำนาจเรียกทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนเพื่อเข้าปฏิบัติราชการได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญสรุป ดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมคำนิยามคำว่า พ้นราชการทหารประเภทที่ 2,อำเภอ ที่ว่าการอำเภอ,นายอำเภอ,จังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด
2. ให้บุคคลซึ่งต้องลงบัญชีทหารกองเกินสามารถลงบัญชีทหารกองเกินได้ ณ ที่อำเภอ หรือเขตที่มีภูมิลำเนา
3. การเรียกคนเข้ากองประจำการเป็นตำรวจ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำได้โดยตกลงกับกระทรวงกลาโหม
4. ให้มีการแก้ไขทะเบียนกองประจำการในกรณีมีความจำเป็นได้ รวมทั้งแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมการออกหนังสือสำคัญประจำตัวทหารกองประจำการให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน
5. ให้บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อลงบัญชีทหารกองเกินแล้วไม่เรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ในยามปกติ
6. ให้การลงบัญชีทหารกองเกินสามารถลงทะเบียนทหารกองเกินในวันเดียวกับวันที่ทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรก ณ ที่ว่าอำเภอ หรือเขตท้องที่ที่มีภูมิลำเนา
7. ให้บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ไม่เป็นผู้ที่ได้รับการผ่อนผันการเข้ารับราชการทหาร
8. ให้กระทรวงกลาโหมมีอำนาจเรียกทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนเพื่อเข้าปฏิบัติราชการได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--