การสนับสนุนทุนการศึกษาของนักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซีย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 23, 2009 14:57 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอทั้ง 3 ข้อ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นเพิ่มเติมของกระทรวงการต่างประเทศไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้

1. การดำเนินความช่วยเหลือแก่นักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซีย จำนวน 10 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการระงับเงินทุนสมทบของรัฐบาลไทยเพื่อให้สามารถศึกษาต่อจนสำเร็จต่อไป

2. ให้สำนักงาน ก.พ. บริหารงบประมาณจากงบที่จัดสรรให้แก่นักเรียนทุนภายใต้โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน เพื่อเจียดจ่ายให้แก่นักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซีย สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 — 2553 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2552

3. ให้นักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซียดังกล่าวอยู่ในการดูแลของกระทรวงการต่างประเทศ

สำหรับงบประมาณให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อ ๆ ไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า

1. ก่อนปี พ.ศ. 2546 รัฐบาลรัสเซียได้เสนอให้ทุนแก่นักศึกษาไทยเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โท และ เอก ณ ประเทศสหพันธรัฐรัสเซียเป็นประจำทุกปี ปีละ 10 ทุน โดยสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยเป็นผู้คัดเลือก สำหรับทุนการศึกษาของรัฐบาลรัสเซียนั้นจะครอบคลุมเฉพาะค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายเดือนละ 200 — 300 รูเบิ้ล ส่วนผู้รับทุนจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้แก่ ค่าเดินทางไป — กลับ ค่าประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

2. ในปี พ.ศ. 2546 กระทรวงการต่างประเทศได้เสนอนโยบายส่งเสริมการศึกษาไทย — รัสเซีย เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่จะสนับสนุนและหาลู่ทางเพิ่มพูนความร่วมมือกับรัสเซีย และเห็นว่าขณะนั้นมีนักศึกษาไทยที่ได้รับทุนจากรัฐบาลรัสเซียอยู่เดิม 30 คน และรัฐบาลรัสเซียคัดเลือกนักศึกษาไทยให้ได้รับทุนเพิ่มขึ้นอีก 15 คน รวมเป็น 45 คน แต่นักศึกษาทุนรัฐบาลรัสเซียเหล่านี้มักประสบปัญหาความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เบี้ยเลี้ยงที่ได้รับไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ จึงเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาหาทางจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาดังกล่าวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้การศึกษาเล่าเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 14 ตุลาคม 2546 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาไทย ณ ประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย รุ่นแรก จำนวน 45 คน เป็นเงินประมาณ 11,340,000 บาท/ปี โดยมอบให้คณะกรรมการพัฒนายุทธศาสตร์สำหรับแก้ไขปัญหาเด็กยากจนและด้อยโอกาส ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ฯ) เป็นประธาน พิจารณารายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการเบิกจ่ายเงินจากเงินรายได้โครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัวและ 2 ตัวของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งพิจารณาให้ทุนการศึกษาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการคัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อรับทุนการศึกษาต่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้มีมติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2546 มอบให้กระทรวงการต่างประเทศรับผิดชอบดำเนินการ โดยให้จัดทำรายละเอียดแผนการใช้เงินแต่ละปีสำหรับนักเรียนไทยจนกระทั่งสำเร็จการศึกษา

4. ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 รัฐบาลรัสเซียได้เสนอให้ทุนการศึกษาแพทยศาสตร์ของสถาบันแพทยศาสตร์เซเซโนวา ซึ่งเป็นสถาบันการแพทย์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ในการนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ขอความร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการสอบคัดเลือกผู้รับทุนจำนวน 5 คน รวมทั้งขอให้พิจารณาสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่นักเรียนทุนดังกล่าวอีกคนละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน

5. กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอคณะกรรมการพัฒนายุทธศาสตร์ฯ เพื่อขออนุมัติทุนการศึกษาเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้แก่นักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซีย รุ่นที่ 2 จำนวน 24 คน รวมทั้งนักเรียนทุนสาขาแพทยศาสตร์จำนวน 4 คน และคณะกรรมการฯ ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2549 อนุมัติการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548 — ปีการศึกษา 2555 เป็นวงเงินเพิ่มเติมอีก 66,500 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเบิกค่าใช้จ่ายเป็นรายปี และขอให้กระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการศึกษาของนักศึกษาไทยทั้ง 2 รุ่น ต่อคณะกรรมการฯ เป็นระยะ ๆ รวมทั้งขอให้กระทรวงศึกษาธิการ ประสานกับสำนักงาน ก.พ. เพื่อบรรจุโครงการจัดสรรทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทย ณ สหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

6. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ยกเลิกโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และกรมบัญชีกลางได้ขอให้นำรายได้ทั้งหมดส่งกลับคืนเป็นรายได้แผ่นดิน ดังนั้น นักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซียดังกล่าวจึงได้รับการจัดสรรเงินทุนเพียงเท่าที่คณะกรรมการฯ อนุมัติไว้แล้ว ซึ่งนักเรียนทุนสาขาต่างๆ อาจได้รับไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับระยะเวลาการศึกษาของหลักสูตร แต่นักเรียนทุนสาขาแพทยศาสตร์ที่เหลืออยู่มีเพียง 2 คน คือนายสุปรีด์ ศรีเจริญ และนายสมเด็จ อัศวถาวร ซึ่งกำลังศึกษาที่ I.M. Schenov Moscow Medical Academy ได้รับเงินทุนสนับสนุนจนถึงเดือนมกราคม 2552

7. กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า นักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซียดังกล่าวเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาล แต่เนื่องจากเป็นการใช้เงินที่ไม่เป็นไปตามระเบียบงบประมาณแผ่นดินฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติให้ระงับการใช้งบประมาณดังกล่าวแล้ว จึงไม่สามารถจัดสรรงบประมาณเช่นเดิมได้ อีกทั้งสาขาวิชาแพทยศาสตร์ถือว่าเป็นสาขาวิชาที่ขาดแคลน การที่รัฐบาลรัสเซียให้ทุนแก่นักศึกษาไทยสาขานี้จึงนับว่า เป็นประโยชน์ต่อการผลิตบุคลากรด้านการแพทย์ของประเทศและสมควรที่จะสนับสนุนให้นักเรียนทุนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากขณะนี้มีนักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซียที่เคยได้รับทุนสนับสนุนค่าครองชีพจากรัฐบาลไทยเดือนละ 500 ดอลลาร์สหรัฐเหลืออยู่จำนวน 10 คน ซึ่งมีกำหนดสำเร็จการศึกษาในปีที่แตกต่างกัน จึงเห็นสมควรที่จะให้ความช่วยเหลือนักเรียนทุนกลุ่มนี้ทั้งหมด โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 97,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,307,700 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 34.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 กันยายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ