คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) สรุปได้ดังนี้
1. การให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548
1.1 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายเลขานุการ กยต. ได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจ่ายเงินช่วยเหลือจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2548 — 15 มิถุนายน 2549 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 783,951,027 บาท จำแนกได้ดังนี้
(1) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548
(1.1) การให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ โดยจ่ายเงินช่วยเหลือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน — 31 ธันวาคม 2548 รวมเป็นเงิน 490,272,132 บาท ดังนี้
- กรณีเสียชีวิต/บาดเจ็บ/ทุพพลภาพ ทรัพย์สินเสียหาย ผู้ประกอบการ ทุนการ-ศึกษาแก่บุตรผู้ได้รับผลกระทบ ฯลฯ จำนวน 4,001 ราย รวมเป็นเงิน 194,427,861 บาท
- กรณีอื่น ๆ โดยมอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการ รวมเป็นเงิน 295,844,271 บาท เช่น โครงการแก้ไขปัญหาตลาดลองกองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การดูแลเยียวยาและฟื้นฟูด้านจิตใจ การจัดงานทำบุญให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต การส่งเสริมบทบาทปอเนาะและอาสาสมัครเพื่อการฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบฯ เป็นต้น
(1.2) การช่วยเหลือเยียวยากรณีพิเศษ โดยใช้จ่ายเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี รวมเป็นเงิน 2,970,186 บาท
(2) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
สำนักงบประมาณได้อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ จำนวน 900 ล้านบาท และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม — 15 มิถุนายน 2549 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 293,678,895 บาท ดังนี้
- กรณีเสียชีวิต/บาดเจ็บ/ทุพพลภาพ ทรัพย์สินเสียหาย ผู้ประกอบการ ทุนการ-ศึกษาแก่บุตรผู้ได้รับผลกระทบ ฯลฯ จำนวน 2,240 ราย รวมเป็นเงิน 129,524,866 บาท
- กรณีอื่น ๆ กยต. ได้มีมติเห็นชอบแผนงาน/โครงการเพิ่มเติมในการให้ความ ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ โดยมอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ รวมเป็นเงิน 164,154,029 บาท เช่น โครงการส่งเสริมประกอบอาชีพเกษตรและการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพทั่ว ๆ ไป โครงการสานสายใจเยาวชน ครู และผู้ปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่การเรียนรู้โครงการ “ฝ่าสายหมอกชีวิต” ฯลฯ
อนึ่ง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีวงเงินทดรองราชการ จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อใช้ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามรายการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ตามที่ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงได้โอนเงินทดรองราชการให้จังหวัดเพื่อจ่ายช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น ร้อยละ 25 กรณียังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน รวมเป็นเงิน 25 ล้านบาท คือ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 8 ล้านบาท จังหวัดยะลา จำนวน 8 ล้านบาท จังหวัดปัตตานี จำนวน 7 ล้านบาท และจังหวัดสงขลา จำนวน 2 ล้านบาท
1.2 การให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจ กยต. โดยคณะอนุกรรมการโครงการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจ โดยได้พัฒนาองค์ความรู้สุขภาพจิต (จัดทำคู่มือ) ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เยี่ยมติดตามและประเมินด้านสุขภาพจิตของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้ว จำนวน 110 ครอบครัว รวมทั้งจัดทำโครงการอุ่นไอรักจากใจสู่เด็กกำพร้าเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในสถานการณ์ความไม่สงบปี 2549
1.3 การดูแลครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะหญิงหม้ายและเด็กกำพร้า กยต. ได้ให้ความสำคัญในการดูแลหญิงหม้ายและเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบ โดยขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและองค์กรภาคประชาชนบูรณาการการทำงานให้เป็นเอกภาพเพื่อลดความซ้ำซ้อน และช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวให้ครอบคลุมกว้างขวางและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1.4 การดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ
(1) โครงการคลินิกช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ประธาน กยต. และคณะได้เดินทางไปพบปะกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งครอบครัวและญาติของผู้ได้รับผลกระทบที่เสียชีวิต บาดเจ็บ เพื่อรับทราบปัญหาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดดำเนินการในลักษณะจัดทำคลินิกช่วยเหลือเยียวยาในการให้คำปรึกษา และให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ทั้งนี้ได้ดำเนินโครงการคลินิกช่วยเหลือเยียวยา ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2549 ณ จังหวัดปัตตานี
(2) โครงการ “ ผู้ได้รับผลกระทบ พบ กยต.” กยต.ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นและความต้องการจากผู้ได้รับผลกระทบฯ ตามโครงการ “ ผู้ได้รับผลกระทบ พบ กยต.” เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2549 ณ จังหวัดปัตตานี เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบได้มีโอกาสกับคณะกรรมการใน กยต. และเสนอความต้องการเพิ่มเติม สามารถทราบปัญหาได้อย่างหลากหลาย โดยมีการแบ่งกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบออกเป็น 6 กลุ่ม สรุปปัญหาและแนวทางการแก้ไขได้ ดังนี้
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ การดำเนินการ
(2.1) กลุ่มเงินช่วยเหลือ มอบหมายให้คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์เยียวยาฯ และจังหวัด
รับผิดชอบการดำเนินการในการประชาสัมพันธ์ถึงสิทธิที่ผู้ได้รับ
ผลกระทบจะได้รับ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ด้วย
(2.2) กลุ่มทุนการศึกษา มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ
(2.3) กลุ่มการรักษาพยาบาลและฟื้นฟูจิตใจ คณะอนุกรรมการโครงการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจฯ
ได้ดำเนินการดูแลเกี่ยวกับเรื่องของจิตใจผู้ได้รับผลกระทบใน
ภาพรวม 200 ครอบครัว และพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ
(2.4) กลุ่มทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย มอบหมายให้จังหวัด 4 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา
ร่วมกันพิจารณาเรื่องเงินทดแทนพืชผลทางการเกษตรเสียหาย
เพื่อจังหวัดจะยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกัน
(2.5) กลุ่มส่งเสริมการประกอบอาชีพ แจ้ง กสชต. พิจารณาดำเนินการ
2. การจัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กยต.ได้จัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้
ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระยะเร่งด่วน เพื่อให้จังหวัดกรอกข้อมูลผู้ประสบเหตุข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ ข้อมูล ผู้พึ่งพิง ข้อมูลเหตุการณ์ และรายงานต่าง ๆ รวมทั้งได้มีการจัดหาอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานฐานข้อมูล ให้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ตำรวจภูธรภาค 9 และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าเรียบร้อยแล้ว
ระยะที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการการจัดทำฐานข้อมูลระยะที่ 2 โดยได้ปรับปรุงฐานข้อมูลผู้ประสบภัยผู้พึ่งพิงและสถานประกอบการ ดังนี้
(1) เพิ่มเติมการจัดเก็บข้อมูลของผู้ประสบภัย ผู้พึ่งพิงและสถานประกอบการที่เสียหายให้มีรายละเอียดมากขึ้น
(2) เพิ่มเติมการประมวลผลออกเป็นรายงานเพื่อนำไปใช้การวิเคราะห์เหตุการณ์และติดตามการดำเนินงาน
(3) จังหวัดที่เกิดเหตุสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรายวัน เข้าสู่ระบบและนำไปใช้ประกอบข้อมูลผู้ประสบภัยและสามารถนำข้อมูลดังกล่าวขึ้นสู่เว็บไซต์ www.southernrelief.opm.go.th
(4) จัดทำระบบการคำนวณความช่วยเหลือที่ผู้ประสบภัยพึงได้รับตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ
(5) เตรียมการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจัดทำเป็นระบบ Web Service และมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการนำเข้าข้อมูลตามขั้นตอนการดำเนินงาน
(6) นำระบบ GIS มาใช้ในการรายงานข้อมูลเชิงพื้นที่ โดยสามารถเรียกดูข้อมูลในเชิงพื้นที่ทีละจังหวัด หรือเปรียบเทียบระหว่าง 4 จังหวัด
3. การประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือ
กยต. ได้มอบหมายให้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ เพื่อให้ประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจในนโยบายและมาตรการการให้ความช่วยเหลือเยียวยาของรัฐที่มีต่อผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ทางโทรทัศน์ วิทยุ จัดพิมพ์แผ่นพับ โปสเตอร์ ทั้งภาษาไทยและภาษายาวี รวมทั้งติดตั้งแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
4. การจัดทำหนังสือสรุปผลงานของ กยต.
เพื่อรวบรวมผลการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบพร้อมครอบครัว ตลอดจนใช้การบูรณาการการช่วยเหลือระหว่างภาครัฐ และประชาชนในพื้นที่ในด้านต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและจิตใจ อันจะเป็นแบบอย่างของการทำงานร่วมกันต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดดำเนินการ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นฝ่ายเลขานุการจัดทำหนังสือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 กรกฎาคม 2549--จบ--
1. การให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548
1.1 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายเลขานุการ กยต. ได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจ่ายเงินช่วยเหลือจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2548 — 15 มิถุนายน 2549 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 783,951,027 บาท จำแนกได้ดังนี้
(1) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548
(1.1) การให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ โดยจ่ายเงินช่วยเหลือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน — 31 ธันวาคม 2548 รวมเป็นเงิน 490,272,132 บาท ดังนี้
- กรณีเสียชีวิต/บาดเจ็บ/ทุพพลภาพ ทรัพย์สินเสียหาย ผู้ประกอบการ ทุนการ-ศึกษาแก่บุตรผู้ได้รับผลกระทบ ฯลฯ จำนวน 4,001 ราย รวมเป็นเงิน 194,427,861 บาท
- กรณีอื่น ๆ โดยมอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการ รวมเป็นเงิน 295,844,271 บาท เช่น โครงการแก้ไขปัญหาตลาดลองกองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การดูแลเยียวยาและฟื้นฟูด้านจิตใจ การจัดงานทำบุญให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต การส่งเสริมบทบาทปอเนาะและอาสาสมัครเพื่อการฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบฯ เป็นต้น
(1.2) การช่วยเหลือเยียวยากรณีพิเศษ โดยใช้จ่ายเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี รวมเป็นเงิน 2,970,186 บาท
(2) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
สำนักงบประมาณได้อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ จำนวน 900 ล้านบาท และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม — 15 มิถุนายน 2549 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 293,678,895 บาท ดังนี้
- กรณีเสียชีวิต/บาดเจ็บ/ทุพพลภาพ ทรัพย์สินเสียหาย ผู้ประกอบการ ทุนการ-ศึกษาแก่บุตรผู้ได้รับผลกระทบ ฯลฯ จำนวน 2,240 ราย รวมเป็นเงิน 129,524,866 บาท
- กรณีอื่น ๆ กยต. ได้มีมติเห็นชอบแผนงาน/โครงการเพิ่มเติมในการให้ความ ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ โดยมอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ รวมเป็นเงิน 164,154,029 บาท เช่น โครงการส่งเสริมประกอบอาชีพเกษตรและการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพทั่ว ๆ ไป โครงการสานสายใจเยาวชน ครู และผู้ปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่การเรียนรู้โครงการ “ฝ่าสายหมอกชีวิต” ฯลฯ
อนึ่ง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีวงเงินทดรองราชการ จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อใช้ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามรายการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ตามที่ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงได้โอนเงินทดรองราชการให้จังหวัดเพื่อจ่ายช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น ร้อยละ 25 กรณียังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน รวมเป็นเงิน 25 ล้านบาท คือ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 8 ล้านบาท จังหวัดยะลา จำนวน 8 ล้านบาท จังหวัดปัตตานี จำนวน 7 ล้านบาท และจังหวัดสงขลา จำนวน 2 ล้านบาท
1.2 การให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจ กยต. โดยคณะอนุกรรมการโครงการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจ โดยได้พัฒนาองค์ความรู้สุขภาพจิต (จัดทำคู่มือ) ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เยี่ยมติดตามและประเมินด้านสุขภาพจิตของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้ว จำนวน 110 ครอบครัว รวมทั้งจัดทำโครงการอุ่นไอรักจากใจสู่เด็กกำพร้าเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในสถานการณ์ความไม่สงบปี 2549
1.3 การดูแลครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะหญิงหม้ายและเด็กกำพร้า กยต. ได้ให้ความสำคัญในการดูแลหญิงหม้ายและเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบ โดยขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและองค์กรภาคประชาชนบูรณาการการทำงานให้เป็นเอกภาพเพื่อลดความซ้ำซ้อน และช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวให้ครอบคลุมกว้างขวางและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1.4 การดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ
(1) โครงการคลินิกช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ประธาน กยต. และคณะได้เดินทางไปพบปะกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งครอบครัวและญาติของผู้ได้รับผลกระทบที่เสียชีวิต บาดเจ็บ เพื่อรับทราบปัญหาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดดำเนินการในลักษณะจัดทำคลินิกช่วยเหลือเยียวยาในการให้คำปรึกษา และให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ทั้งนี้ได้ดำเนินโครงการคลินิกช่วยเหลือเยียวยา ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2549 ณ จังหวัดปัตตานี
(2) โครงการ “ ผู้ได้รับผลกระทบ พบ กยต.” กยต.ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นและความต้องการจากผู้ได้รับผลกระทบฯ ตามโครงการ “ ผู้ได้รับผลกระทบ พบ กยต.” เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2549 ณ จังหวัดปัตตานี เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบได้มีโอกาสกับคณะกรรมการใน กยต. และเสนอความต้องการเพิ่มเติม สามารถทราบปัญหาได้อย่างหลากหลาย โดยมีการแบ่งกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบออกเป็น 6 กลุ่ม สรุปปัญหาและแนวทางการแก้ไขได้ ดังนี้
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ การดำเนินการ
(2.1) กลุ่มเงินช่วยเหลือ มอบหมายให้คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์เยียวยาฯ และจังหวัด
รับผิดชอบการดำเนินการในการประชาสัมพันธ์ถึงสิทธิที่ผู้ได้รับ
ผลกระทบจะได้รับ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ด้วย
(2.2) กลุ่มทุนการศึกษา มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ
(2.3) กลุ่มการรักษาพยาบาลและฟื้นฟูจิตใจ คณะอนุกรรมการโครงการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจฯ
ได้ดำเนินการดูแลเกี่ยวกับเรื่องของจิตใจผู้ได้รับผลกระทบใน
ภาพรวม 200 ครอบครัว และพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ
(2.4) กลุ่มทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย มอบหมายให้จังหวัด 4 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา
ร่วมกันพิจารณาเรื่องเงินทดแทนพืชผลทางการเกษตรเสียหาย
เพื่อจังหวัดจะยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกัน
(2.5) กลุ่มส่งเสริมการประกอบอาชีพ แจ้ง กสชต. พิจารณาดำเนินการ
2. การจัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กยต.ได้จัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้
ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระยะเร่งด่วน เพื่อให้จังหวัดกรอกข้อมูลผู้ประสบเหตุข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ ข้อมูล ผู้พึ่งพิง ข้อมูลเหตุการณ์ และรายงานต่าง ๆ รวมทั้งได้มีการจัดหาอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานฐานข้อมูล ให้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ตำรวจภูธรภาค 9 และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าเรียบร้อยแล้ว
ระยะที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการการจัดทำฐานข้อมูลระยะที่ 2 โดยได้ปรับปรุงฐานข้อมูลผู้ประสบภัยผู้พึ่งพิงและสถานประกอบการ ดังนี้
(1) เพิ่มเติมการจัดเก็บข้อมูลของผู้ประสบภัย ผู้พึ่งพิงและสถานประกอบการที่เสียหายให้มีรายละเอียดมากขึ้น
(2) เพิ่มเติมการประมวลผลออกเป็นรายงานเพื่อนำไปใช้การวิเคราะห์เหตุการณ์และติดตามการดำเนินงาน
(3) จังหวัดที่เกิดเหตุสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรายวัน เข้าสู่ระบบและนำไปใช้ประกอบข้อมูลผู้ประสบภัยและสามารถนำข้อมูลดังกล่าวขึ้นสู่เว็บไซต์ www.southernrelief.opm.go.th
(4) จัดทำระบบการคำนวณความช่วยเหลือที่ผู้ประสบภัยพึงได้รับตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ
(5) เตรียมการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจัดทำเป็นระบบ Web Service และมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการนำเข้าข้อมูลตามขั้นตอนการดำเนินงาน
(6) นำระบบ GIS มาใช้ในการรายงานข้อมูลเชิงพื้นที่ โดยสามารถเรียกดูข้อมูลในเชิงพื้นที่ทีละจังหวัด หรือเปรียบเทียบระหว่าง 4 จังหวัด
3. การประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือ
กยต. ได้มอบหมายให้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ เพื่อให้ประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจในนโยบายและมาตรการการให้ความช่วยเหลือเยียวยาของรัฐที่มีต่อผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ทางโทรทัศน์ วิทยุ จัดพิมพ์แผ่นพับ โปสเตอร์ ทั้งภาษาไทยและภาษายาวี รวมทั้งติดตั้งแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
4. การจัดทำหนังสือสรุปผลงานของ กยต.
เพื่อรวบรวมผลการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบพร้อมครอบครัว ตลอดจนใช้การบูรณาการการช่วยเหลือระหว่างภาครัฐ และประชาชนในพื้นที่ในด้านต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและจิตใจ อันจะเป็นแบบอย่างของการทำงานร่วมกันต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดดำเนินการ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นฝ่ายเลขานุการจัดทำหนังสือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 กรกฎาคม 2549--จบ--