คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศสตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส (Memorandum of Understanding on Co-Operation on Civil Aviation Training between the General Civil Aviation Directorate, Ministry for Infrastructure Transpot, Tourism and the Sea, the Republic of France and the Commission on Higher Education)
2. อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส ฝ่ายไทย
3. เห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ดำเนินกิจกรรมทางวิชาการภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส
โดยร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส ประกอบด้วย 8 หัวข้อหลัก ได้แก่
ข้อ 1 วัตถุประสงค์ เน้นความร่วมมือให้ฝ่ายฝรั่งเศสให้คำแนะนำทางวิชาการเกี่ยวกับข้อกำหนดในการเลือกอุปกรณ์ เครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ ความร่วมมือในการจัดทำหลักสูตร การจัดฝึกอบรมบุคลากร การจัดส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอนที่วิทยาลัย การแลกเปลี่ยนบุคลากร และการประเมินมาตรฐานหลักสูตรการบินของวิทยาลัย
ข้อ 2 การปฏิบัติ การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจโดยจัดตั้งคณะทำงานร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนจากกรมการขนส่งทางอากาศของไทย จากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย จากหน่วยงานด้านการบินแห่งกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน ขนส่ง ท่องเที่ยวและทะเลของประเทศฝรั่งเศส (General Civil Aviation Directorate, Ministry for Infrastructure Transport, Tourism and the Sea of the Republic of France) หรือ (DGAC) และจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อหารือรายละเอียดกิจกรรมที่จะดำเนินการร่วมกัน
ข้อ 3 ทุนดำเนินการ ค่าใช้จ่ายมาจากทั้งสองฝ่าย โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามความจำเป็น และ DGAC ของฝรั่งเศสจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นในการจัดส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยที่มหาวิทยาลัยนครพนม
ข้อ 4 สิทธิ กล่าวถึงการรักษาความลับด้านข้อมูลข่าวสารที่ไม่พึงเปิดเผย และทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งแต่ละฝ่ายจะต้องรักษาทรัพย์สินทางปัญญาของตนไว้ จะเปิดเผยเฉพาะที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นตามบันทึกความเข้าใจเท่านั้น
ข้อ 5 การแก้ไข การแก้ไขหรือเพิ่มเติมใด ๆ ในบันทึกความเข้าใจจะต้องเป็นความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่ายและต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร
ข้อ 6 การระงับข้อขัดแย้ง ข้อขัดแย้งใด ๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องได้รับการแก้ไขจากทั้ง 2 ฝ่ายและต้องไม่ดึงองค์กรใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
ข้อ 7 การบังคับใช้และการยกเลิก บันทึกความเข้าใจมีผลทันทีที่ลงนามและมีผลบังคับใช้ 5 ปีนับจากวันลงนาม การสิ้นสุดบันทึกความเข้าใจจากฝ่ายใดก็ตามจะต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วัน และต้องเป็นความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย
ข้อ 8 อำนาจที่ได้รับมอบหมาย สัญญาจะทำเป็นตัวฉบับภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ทุกฉบับถูกต้องเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้เสนอโครงการจัดตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติไปยังรัฐบาลฝรั่งเศสโดยผ่านสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรการบินพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบิน ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและส่งผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศสของมหาวิทยาลัยการบินแห่งชาติของฝรั่งเศส 2 แห่ง ได้แก่ ENAC (Ecole National de I’Aviation Civile) และ SEFA (Service d’exploitation de la formation aeronautique) เดินทางมาศึกษาดูงานการผลิตนักบินในประเทศไทย และศึกษาพื้นที่จังหวัดนครพนมเมื่อเดือนมิถุนายน 2548 ซึ่งขณะนี้รัฐบาล
ฝรั่งเศสได้มีหนังสือแสดงเจตจำนงยินดีให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในการจัดตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติ ณ มหาวิทยาลัยนครพนม และนำไปสู่การยกร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย - ฝรั่งเศส (Memorandum of Understanding on Co-Operation on Civil Aviation Training between the General Civil Aviation Directorate, Ministry for Infrastructure Transpot, Tourism and the Sea, the Republic of France and the Commission on Higher Education) ระดับหน่วยงานของทั้งสองฝ่าย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--
1. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส (Memorandum of Understanding on Co-Operation on Civil Aviation Training between the General Civil Aviation Directorate, Ministry for Infrastructure Transpot, Tourism and the Sea, the Republic of France and the Commission on Higher Education)
2. อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส ฝ่ายไทย
3. เห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ดำเนินกิจกรรมทางวิชาการภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส
โดยร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย-ฝรั่งเศส ประกอบด้วย 8 หัวข้อหลัก ได้แก่
ข้อ 1 วัตถุประสงค์ เน้นความร่วมมือให้ฝ่ายฝรั่งเศสให้คำแนะนำทางวิชาการเกี่ยวกับข้อกำหนดในการเลือกอุปกรณ์ เครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ ความร่วมมือในการจัดทำหลักสูตร การจัดฝึกอบรมบุคลากร การจัดส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอนที่วิทยาลัย การแลกเปลี่ยนบุคลากร และการประเมินมาตรฐานหลักสูตรการบินของวิทยาลัย
ข้อ 2 การปฏิบัติ การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจโดยจัดตั้งคณะทำงานร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนจากกรมการขนส่งทางอากาศของไทย จากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย จากหน่วยงานด้านการบินแห่งกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน ขนส่ง ท่องเที่ยวและทะเลของประเทศฝรั่งเศส (General Civil Aviation Directorate, Ministry for Infrastructure Transport, Tourism and the Sea of the Republic of France) หรือ (DGAC) และจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อหารือรายละเอียดกิจกรรมที่จะดำเนินการร่วมกัน
ข้อ 3 ทุนดำเนินการ ค่าใช้จ่ายมาจากทั้งสองฝ่าย โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามความจำเป็น และ DGAC ของฝรั่งเศสจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นในการจัดส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยที่มหาวิทยาลัยนครพนม
ข้อ 4 สิทธิ กล่าวถึงการรักษาความลับด้านข้อมูลข่าวสารที่ไม่พึงเปิดเผย และทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งแต่ละฝ่ายจะต้องรักษาทรัพย์สินทางปัญญาของตนไว้ จะเปิดเผยเฉพาะที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นตามบันทึกความเข้าใจเท่านั้น
ข้อ 5 การแก้ไข การแก้ไขหรือเพิ่มเติมใด ๆ ในบันทึกความเข้าใจจะต้องเป็นความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่ายและต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร
ข้อ 6 การระงับข้อขัดแย้ง ข้อขัดแย้งใด ๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องได้รับการแก้ไขจากทั้ง 2 ฝ่ายและต้องไม่ดึงองค์กรใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
ข้อ 7 การบังคับใช้และการยกเลิก บันทึกความเข้าใจมีผลทันทีที่ลงนามและมีผลบังคับใช้ 5 ปีนับจากวันลงนาม การสิ้นสุดบันทึกความเข้าใจจากฝ่ายใดก็ตามจะต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วัน และต้องเป็นความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย
ข้อ 8 อำนาจที่ได้รับมอบหมาย สัญญาจะทำเป็นตัวฉบับภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ทุกฉบับถูกต้องเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้เสนอโครงการจัดตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติไปยังรัฐบาลฝรั่งเศสโดยผ่านสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรการบินพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบิน ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและส่งผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศสของมหาวิทยาลัยการบินแห่งชาติของฝรั่งเศส 2 แห่ง ได้แก่ ENAC (Ecole National de I’Aviation Civile) และ SEFA (Service d’exploitation de la formation aeronautique) เดินทางมาศึกษาดูงานการผลิตนักบินในประเทศไทย และศึกษาพื้นที่จังหวัดนครพนมเมื่อเดือนมิถุนายน 2548 ซึ่งขณะนี้รัฐบาล
ฝรั่งเศสได้มีหนังสือแสดงเจตจำนงยินดีให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในการจัดตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติ ณ มหาวิทยาลัยนครพนม และนำไปสู่การยกร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบินพลเรือนไทย - ฝรั่งเศส (Memorandum of Understanding on Co-Operation on Civil Aviation Training between the General Civil Aviation Directorate, Ministry for Infrastructure Transpot, Tourism and the Sea, the Republic of France and the Commission on Higher Education) ระดับหน่วยงานของทั้งสองฝ่าย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--