เรื่อง การพิจารณาทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด
ตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) เสนอ แล้วมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ดังนี้
1. โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 รวมทั้งสิ้น 90 โครงการ วงเงิน 2,392.144 ล้านบาท ควรให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการพิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณปกติของหน่วยงานเป็นอันดับแรก หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง ตามความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายจริงโดยรีบด่วน
2. สำหรับโครงการที่อยู่ในแผนดำเนินงานปี 2550 ขอให้รัฐมนตรีและหน่วยงานดำเนินการเสนอขอตั้ง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยให้ถือเป็นโครงการที่มีลำดับความสำคัญสูง เนื่องจากเป็น โครงการตามมติคณะรัฐมนตรี
3. ในส่วนของโครงการที่ขาดรายละเอียดหรือไม่มีความพร้อมหรือมีปัญหาอุปสรรคอื่น ให้หน่วยงานรีบจัดทำรายละเอียดโครงการและเตรียมความพร้อม เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในโอกาสต่อไป
4. เนื่องจากโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรดังกล่าว ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลและเอื้อต่อยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด/จังหวัด ตลอดจนเป็นโครงการที่อำนวยประโยชน์ให้ประชาชนหรือแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ จึงควรให้มีระบบติดตามผลการดำเนินงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบโครงการ กำกับ ติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานของหน่วยงาน เพื่อให้การดำเนินงานโครงการเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ทั้งนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) รายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันได้มีการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ รวม 8 ครั้ง และได้มีมติเห็นชอบแผนงาน/โครงการ ต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด/จังหวัด รวมทั้งสิ้น 309 โครงการ วงเงิน 53,916.745 ล้านบาท ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาทบทวน ค่าใช้จ่ายแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสม นั้น หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายได้ร่วมประชุมหารือแล้ว สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. ผลการพิจารณาทบทวนค่าใช้จ่ายแผนงาน/โครงการ จำนวน 309 โครงการ วงเงินเดิมทั้งสิ้น 53,916.745 ล้านบาท คงเหลือวงเงิน 45,579.437 ล้านบาท โดยได้ปรับลดค่าใช้จ่ายลง 8,337.308 ล้านบาท ประกอบด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดพะเยา จังหวัดจันทบุรี จังหวัดพังงา จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดเลย
2. จากผลการพิจารณาทบทวนค่าใช้จ่ายแผนงาน/โครงการดังกล่าว จำแนกตามความจำเป็นเร่งด่วนในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี ดังนี้
2.1 แผนงาน/โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 รวมทั้งสิ้น 90 โครงการ วงเงิน 2,392.144 ล้านบาท
2.2 แผนงาน/โครงการที่มีความพร้อมและจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 รวมทั้งสิ้น 63 โครงการ วงเงิน 6,739.732 ล้านบาท
2.3 แผนงาน/โครงการที่มีความพร้อมและจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ วงเงิน 8,543.000 ล้านบาท
2.4 แผนงาน/โครงการที่จะต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติม จำนวน 73 โครงการ วงเงิน 4,751.520 ล้านบาท
2.5 แผนงาน/โครงการที่ใช้งบประมาณแหล่งอื่น หรือยกเลิกโครงการหรือไม่มีรายละเอียดและวงเงินที่ชัดเจน จำนวน 76 โครงการ วงเงิน 3,585.788 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--
ตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) เสนอ แล้วมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ดังนี้
1. โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 รวมทั้งสิ้น 90 โครงการ วงเงิน 2,392.144 ล้านบาท ควรให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการพิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณปกติของหน่วยงานเป็นอันดับแรก หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง ตามความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายจริงโดยรีบด่วน
2. สำหรับโครงการที่อยู่ในแผนดำเนินงานปี 2550 ขอให้รัฐมนตรีและหน่วยงานดำเนินการเสนอขอตั้ง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยให้ถือเป็นโครงการที่มีลำดับความสำคัญสูง เนื่องจากเป็น โครงการตามมติคณะรัฐมนตรี
3. ในส่วนของโครงการที่ขาดรายละเอียดหรือไม่มีความพร้อมหรือมีปัญหาอุปสรรคอื่น ให้หน่วยงานรีบจัดทำรายละเอียดโครงการและเตรียมความพร้อม เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในโอกาสต่อไป
4. เนื่องจากโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรดังกล่าว ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลและเอื้อต่อยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด/จังหวัด ตลอดจนเป็นโครงการที่อำนวยประโยชน์ให้ประชาชนหรือแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ จึงควรให้มีระบบติดตามผลการดำเนินงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบโครงการ กำกับ ติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานของหน่วยงาน เพื่อให้การดำเนินงานโครงการเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ทั้งนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) รายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันได้มีการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ รวม 8 ครั้ง และได้มีมติเห็นชอบแผนงาน/โครงการ ต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด/จังหวัด รวมทั้งสิ้น 309 โครงการ วงเงิน 53,916.745 ล้านบาท ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาทบทวน ค่าใช้จ่ายแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสม นั้น หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายได้ร่วมประชุมหารือแล้ว สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. ผลการพิจารณาทบทวนค่าใช้จ่ายแผนงาน/โครงการ จำนวน 309 โครงการ วงเงินเดิมทั้งสิ้น 53,916.745 ล้านบาท คงเหลือวงเงิน 45,579.437 ล้านบาท โดยได้ปรับลดค่าใช้จ่ายลง 8,337.308 ล้านบาท ประกอบด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดพะเยา จังหวัดจันทบุรี จังหวัดพังงา จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดเลย
2. จากผลการพิจารณาทบทวนค่าใช้จ่ายแผนงาน/โครงการดังกล่าว จำแนกตามความจำเป็นเร่งด่วนในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี ดังนี้
2.1 แผนงาน/โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 รวมทั้งสิ้น 90 โครงการ วงเงิน 2,392.144 ล้านบาท
2.2 แผนงาน/โครงการที่มีความพร้อมและจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 รวมทั้งสิ้น 63 โครงการ วงเงิน 6,739.732 ล้านบาท
2.3 แผนงาน/โครงการที่มีความพร้อมและจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ วงเงิน 8,543.000 ล้านบาท
2.4 แผนงาน/โครงการที่จะต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติม จำนวน 73 โครงการ วงเงิน 4,751.520 ล้านบาท
2.5 แผนงาน/โครงการที่ใช้งบประมาณแหล่งอื่น หรือยกเลิกโครงการหรือไม่มีรายละเอียดและวงเงินที่ชัดเจน จำนวน 76 โครงการ วงเงิน 3,585.788 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--