คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ที่สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน ด้วยว่าเมื่อเกิดความเสียหายแก่ผู้ประสบภัยจากรถมักจะมีผลกระทบไปยังงบประมาณหรือกองทุนอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น งบประมาณด้านการประกันสุขภาพถ้วนหน้า งบประมาณด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ หรือกองทุนประกันสังคม เป็นต้น เนื่องจากการขอรับชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้น หรือค่าสินไหมทดแทนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มีวิธีปฏิบัติและมีเงื่อนไขต่างๆ ที่ยุ่งยาก จึงสมควรพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพและมีความชัดเจน
ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่..) ฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “รถ” และบทนิยามคำว่า “ค่าเสียหายเบื้องต้น”
2. ยกเลิกบทนิยามคำว่า “เครื่องหมาย” และยกเลิกลักษณะและวิธีการในการใช้เครื่องหมาย แสดงการมีประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถ รวมทั้งบทกำหนดโทษที่เกี่ยวกับเครื่องหมาย
3. กำหนดให้เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถต้องเก็บหลักฐานแสดงการมีประกันความเสียหายไว้และพร้อมแสดงหลักฐานดังกล่าวต่อเจ้าพนักงาน
4. กำหนดให้นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ตรวจสอบการมีประกันความเสียหายก่อนรับจดทะเบียนรถยนต์หรือรับชำระภาษีรถยนต์ประจำปี
5. กำหนดกรณีที่ให้นายทะเบียนเรียกค่าเสียหายเบื้องต้นคืนจากเจ้าของรถหรือบริษัท รวมทั้ง การเรียกเงินเพิ่ม
6. กำหนดให้สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยอาจจัดสรรดอกผลของเงินกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าใช้จ่ายอื่น
7. ปรับปรุงบทกำหนดโทษให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--
ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่..) ฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “รถ” และบทนิยามคำว่า “ค่าเสียหายเบื้องต้น”
2. ยกเลิกบทนิยามคำว่า “เครื่องหมาย” และยกเลิกลักษณะและวิธีการในการใช้เครื่องหมาย แสดงการมีประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถ รวมทั้งบทกำหนดโทษที่เกี่ยวกับเครื่องหมาย
3. กำหนดให้เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถต้องเก็บหลักฐานแสดงการมีประกันความเสียหายไว้และพร้อมแสดงหลักฐานดังกล่าวต่อเจ้าพนักงาน
4. กำหนดให้นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ตรวจสอบการมีประกันความเสียหายก่อนรับจดทะเบียนรถยนต์หรือรับชำระภาษีรถยนต์ประจำปี
5. กำหนดกรณีที่ให้นายทะเบียนเรียกค่าเสียหายเบื้องต้นคืนจากเจ้าของรถหรือบริษัท รวมทั้ง การเรียกเงินเพิ่ม
6. กำหนดให้สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยอาจจัดสรรดอกผลของเงินกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าใช้จ่ายอื่น
7. ปรับปรุงบทกำหนดโทษให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--