การแก้ไขปัญหาการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 7, 2009 16:02 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีพิจารณาการแก้ไขปัญหาการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร แล้วมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงาน ดังนี้

1.1 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดส่งมอบข้อมูลการจดทะเบียนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2552 ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินการทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดเวลาโครงการ

1.2 ให้กระทรวงพาณิชย์และธ.ก.ส. ปรับปรุงระบบและเร่งรัดการแจ้งอัตราชดเชยรายได้เกษตรกรของข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้หน่วยงานระดับพื้นที่และเกษตรกรได้รับทราบโดยเร็ว

1.3 ให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งแจ้งมติคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้อนุโลมตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในกรณีที่เกษตรกรได้จำหน่ายพืชผลทางการเกษตรก่อนวันทำสัญญาชดเชยรายได้กับ ธ.ก.ส.

2. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2552 ในประเด็นการเพิ่มอำนาจการตรวจสอบรับรองข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจของคณะทำงานระดับอำเภอและตำบล โดยให้ ธ.ก.ส.พิจารณาเสนอให้คณะทำงานระดับอำเภอและตำบลพิจารณาตรวจสอบข้อมูล ในกรณีที่ ธ.ก.ส.เห็นว่าข้อมูลเกษตรกรที่ได้จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และเร่งรัดให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการทำสัญญาโดยมีเงื่อนไขว่าหากตรวจสอบพบข้อมูลที่เป็นเท็จจะดำเนินการเรียกเก็บเงินชดเชยที่จ่ายไปคืนได้

สาระสำคัญของเรื่อง

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ลงสำรวจพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบปัญหาอุปสรรคที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไข 4 ประการ ดังนี้

(1) การส่งมอบข้อมูลการจดทะเบียนเกษตรกรไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีกำหนดต้องส่งมอบข้อมูลการจดทะเบียนเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังให้ ธ.ก.ส.ภายในวันที่ 30 กันยายน 2552 แต่พบว่า กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังส่งมอบข้อมูลให้ ธ.ก.ส. ไม่แล้วเสร็จ โดย ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2552 ส่งมอบข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดได้เพียงร้อยละ 77.82 ของเกษตรกรผู้จดทะเบียน ข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้ร้อยละ 76.47 ของเกษตรกรผู้จดทะเบียน ส่งผลให้การทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรเกิดความล่าช้า โดยขณะนี้มีการทำสัญญากับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดได้เพียง 6,187 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดที่จดทะเบียนแล้ว

(2) คณะทำงานระดับอำเภอและระดับตำบล ยังมีการแต่งตั้งไม่ครบทุกจังหวัด และขณะเดียวกันการแต่งตั้งของบางจังหวัด ยังมีการกำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่คลาดเคลื่อน โดยขณะนี้มีการแต่งตั้งแล้ว 54 จังหวัด แต่พบว่าบางจังหวัดมีการกำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่คลาดเคลื่อน รวมทั้ง มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 8 กันยายน 252 ได้เพิ่มหน้าที่ในการตรวจสอบรับรองข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจ ส่งผลทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและล่าช้าในกระบวนการทำสัญญาของ ธ.ก.ส.

(3) การถ่ายทอดข้อมูลอัตราชดเชยรายได้เกษตรกรสู่ระดับพื้นที่ล่าช้าเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการชดเชยรายได้เกษตรกรมีความล่าช้าตามไปด้วย

(4) เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. ยังไม่กล้ารับทำสัญญา เนื่องจากยังไม่ทราบมติคณะรัฐมนตรีในกรณีข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ ที่อนุโลมให้กับเกษตรกรที่ได้ผ่านกระบวนการประชาคม แต่ได้ขายผลผลิตไปแล้ว สามารถทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรได้

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 ตุลาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ