เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและเงื่อนไขการเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการชำระหนี้
แทนของกระทรวงการคลัง พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและเงื่อนไขการเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการชำระหนี้แทนของ กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ข้อเท็จจริง
กระทรวงการคลังเสนอว่าโดยที่พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ให้อำนาจกระทรวงการคลังชำระหนี้แทนรัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงินภาครัฐได้ และเมื่อได้ชำระหนี้แทนไปแล้ว ให้หน่วยงานดังกล่าวเป็นหนี้กระทรวงการคลังตามจำนวนที่ได้ชำระไป รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นใดด้วย อีกทั้งให้อำนาจกระทรวงการคลังในการเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากการชำระหนี้แทนดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามอัตราและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดให้กระทรวงการคลังชำระหนี้แทนได้ 2 หน่วยงาน คือ รัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงินภาครัฐ ซึ่งหนี้ที่จะชำระแทนนั้นจะต้องเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันเท่านั้นและหน่วยงานนั้นได้ให้ความเห็นชอบในการปรับโครงสร้างดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ การกู้เงินดังกล่าวจะต้องมีการบรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะแล้ว (ร่างข้อ 1)
2. การกู้เงินรายใหม่เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินบาทให้กู้เป็นเงินบาทเท่านั้น และนับรวมในวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ หรือหากเป็นการกู้เงินรายใหม่เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ให้นับรวมในวงเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (ร่างข้อ 2)
3. เมื่อกระทรวงการคลังได้ชำระหนี้แทนแล้ว ให้หน่วยงานนั้นเป็นหนี้กระทรวงการคลังตามจำนวนที่ได้ชำระ โดยให้เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราและเงื่อนไขเดียวกับที่กระทรวงการคลังได้กู้เงินมาเพื่อชำระหนี้แทน รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าว (ร่างข้อ 3)
4. กำหนดให้กระทรวงการคลังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการชำระหนี้จากรัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินภาครัฐในอัตรา ดังนี้ ในปีแรกอัตราร้อยละ 0.50 ต่อปี ของวงเงินที่ได้ชำระ และในปีถัด ๆ ไป ให้เป็นไปตามอัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกันของรัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงินภาครัฐที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงกำหนดอัตราและเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการค้ำประกันของกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2551 (ร่างข้อ 5)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 ตุลาคม 2552 --จบ--