เรื่อง การจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์ศึกษาและการออกแบบนิทรรศการระหว่างสถาบันวัฒนธรรม
แห่งสาธารณรัฐเปรู และกรมศิลปากรแห่งราชอาณาจักรไทย
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์ศึกษาและการออกแบบนิทรรศการระหว่างสถาบันวัฒนธรรมแห่งชาติแห่งสาธารณรัฐเปรู และกรมศิลปากรแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
2. อนุมัติให้กรมศิลปากรทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์ศึกษาและการออกแบบนิทรรศการระหว่างสถาบันวัฒนธรรมแห่งชาติแห่งสาธารณรัฐเปรู และกรมศิลปากรแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมอบหมายให้อธิบดีกรมศิลปากรเป็นผู้มีอำนาจลงนามในความตกลงฯ
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงวัฒนธรรมรายงานว่า
1. สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2549 นาง Eliane Karp de Toledo ภริยาประธานาธิบดีเปรูและคณะได้เดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐบาลไทย โดยเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และได้เข้าร่วมประชุมหารือกับผู้บริหาร ภัณฑารักษ์ นักโบราณคดี และนักวิทยาศาสตร์ของกรมศิลปากรเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์ โบราณคดี ตลอดจนการอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุระหว่างประเทศไทยกับประเทศเปรูด้วย จึงทำให้สถานเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยมีความสนใจที่จะสถาปนาความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์กับกรมศิลปากร
2. ต่อมาฝ่ายเปรูมีความประสงค์จะจัดทำความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินความร่วมมือระหว่างกัน โดยความตกลงดังกล่าวรวมถึงการแลกเปลี่ยนการจัดนิทรรศการซึ่งเป็นกิจกรรมที่ฝ่ายไทยและเปรูมีความสนใจ ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยจึงได้นำส่งร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์ “Cooperation Agreement on Museology and Museography between the National Culture Institute of Peru and Department of Fine Arts of Thailand” ให้ฝ่ายไทยพิจารณา
3. กรมศิลปากรมีความเห็นว่า ร่างความตกลงฯ ฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นเรื่องความร่วมมือทางด้านวิชาการ ด้านพิพิธภัณฑ์ศึกษา และการออกแบบนิทรรศการ รวมทั้งวิชาการสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ร่างความตกลงฯ ดังกล่าวจึงไม่มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตประเทศไทยหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวางหรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน อย่างมีนัยสำคัญ และกรมศิลปากรสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขพันธกรณีของร่างความตกลงฯ ฉบับนี้ได้โดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา เนื่องจากการดำเนินการตามพันธกรณีในร่างความตกลงฯ เป็นภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมศิลปากร ดังนั้น ร่างความตกลงฯ ฉบับนี้จึงไม่ถือเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 ตุลาคม 2552 --จบ--