คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. รับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2552 และเห็นชอบระบบการตรวจสอบพื้นที่การขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการประสานการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรเสนอ
2. รับทราบกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานโครงการฯ ทั้งนี้ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คณะกรรมการประสานการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจได้รับสิทธิและประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการฯ ตรงตามข้อเท็จจริงของการเพาะปลูกต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ความก้าวหน้าของการดำเนินงาน ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2552
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ข้าว
จำนวนราย ร้อยละของ จำนวนราย ร้อยละของ จำนวนราย ร้อยละของ
ขึ้นทะเบียน ขึ้นทะเบียน ขึ้นทะเบียน
1) การขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืช 392,356 104.10* 437,496 113.75* 3,114,827 83.84*
2) ผ่านการรับรองโดยประชาคม 390,790 99.6 432,155 98.78 2,310,544 74.18
3) ธ.ก.ส. รับทะเบียนเกษตรกร 388,953 99.13 430,134 98.32 992,671 31.87
4) ธ.ก.ส. ทำสัญญา 160,164 40.82 60,178 13.76 80,656 2.56
5) การใช้สิทธิของเกษตรกร 2,038 ราย 0.52 - 0 - 0หมายเหตุ * หมายถึง ร้อยละของเป้าหมาย
2. กำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ข้าว
1) สิ้นสุดการขึ้นทะเบียน 30 ก.ย. 52 30 ก.ย. 52 31 ต.ค. 52(ภาคใต้ 28 ก.พ. 53)
2) สิ้นสุดการประชาคมและรับรองเกษตรกร 30 ก.ย. 52 30 ก.ย. 52 15 พ.ย. 52
(ภาคใต้ 28 ก.พ. 53)
3) สิ้นสุดการทำสัญญากับ ธ.ก.ส. 30 พ.ย. 52 30 พ.ย. 52 15 ธ.ค. 52
ทั้งนี้ กรณีข้าว ให้เร่งรัดดำเนินการรับรองเกษตรกรและทำสัญญาในพื้นที่ที่คาดว่า จะมีการเก็บเกี่ยวก่อน โดยดำเนินการเป็น 3 ช่วง คือ 1-15 พ.ย. 52 และ 15-30 พ.ย. 52 และ 1-15 ธ.ค. 52 เพื่อให้ทันกับการใช้สิทธิของเกษตรกรที่จะเก็บเกี่ยวและขายผลผลิตในช่วงเวลาดังกล่าว
3. ระบบตรวจสอบพื้นที่การขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2552 เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานในการสุ่มตรวจสอบพื้นที่ทางกายภาพระดับตำบล ที่คาดว่าอาจจะมีการแจ้งพื้นที่ในทะเบียนฯ มากผิดปกติโดยใช้ระบบภาพถ่ายดาวเทียม และ/หรือ ภาพถ่ายทางอากาศของกรมพัฒนาที่ดิน โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการดำเนินงาน ทั้งนี้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้รายงานผลการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีจังหวัดที่มีข้อมูลผิดปกติจำนวน 19 จังหวัด ซึ่งคณะกรรมการประสานการดำเนินงานฯ มีมติให้ดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนดังนี้
3.1 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุพื้นที่ตำบล ที่มีความผิดปกติสูงเกินกว่า ร้อยละ 20 ส่งให้คณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้ฯ ทราบและดำเนินการ
3.2 คณะอนุกรรมการติดตามฯ แจ้งให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด และคณะทำงานฯ ระดับอำเภอและตำบล ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจดังกล่าว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2552
3.3 คณะทำงานระดับอำเภอและตำบลดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และรับรองข้อมูลทะเบียนฯ และแจ้งผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการฯ ระดับจังหวัดทราบภายใน 5 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้งให้ดำเนินการจากคณะอนุกรรมการติดตามฯ
3.4 คณะกรรมการฯ ระดับจังหวัดพิจารณาให้ความเห็นและแจ้งผลไปยังคณะอนุกรรมการติดตามฯ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใน 5 วันทำการ เพื่อให้ ธ.ก.ส. พิจารณาดำเนินการในกรณีที่พบความผิดปกติ คือ
(1) กรณีที่ได้มีการจ่ายเงินชดเชยไปแล้ว ให้มีการติดตามและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น และให้ ธ.ก.ส. พิจารณาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป
(2) กรณีที่ยังไม่ได้จ่ายค่าชดเชย ให้ชะลอการจ่ายเงินชดเชยไว้
3.5 ในกรณีคณะอนุกรรมการติดตามฯ ดำเนินการสุ่มตรวจสอบพื้นที่และข้อมูลเกษตรกรและทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจ ในพื้นที่ที่มีความผิดปกติ ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต/สถานีพัฒนาที่ดิน สนับสนุนการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการติดตามฯ ในการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ที่จะทำการตรวจสอบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 ตุลาคม 2552 --จบ--