คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ความแห้งแล้งและผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ (วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2548) ดังนี้
1.สถานการณ์ความแห้งแล้ง มีจังหวัดประสบภัย จำนวน 63 จังหวัด 631 อำเภอ 59 กิ่งอำเภอ 4,701 ตำบล 41,099 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 55.56 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ 73,963 หมู่บ้าน) (ข้อมูลถึงวันที่ 3 มีนาคม 2548 คาดว่าช่วงระหว่างเดือนมีนาคม —พฤษภาคม 2548 จะมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความ แห้งแล้งทั่วประเทศ จำนวน 70 จังหวัด 643 อำเภอ 60 กิ่งอำเภอ
- มีพื้นที่ประสบภัยแล้งรุนแรง จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา นครสวรรค์ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด
- มีพื้นที่ประสบภัยแล้งปานกลาง จำนวน 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร อุทัยธานี พิจิตร ตาก อุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ เลย กาญจนบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สระบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรีและชลบุรี
- มีพื้นที่ประสบภัยแล้งเล็กน้อย จำนวน 37 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ พะเยา พิษณุโลก ลำปาง น่าน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู มุกดาหาร ราชบุรี ชัยนาท อ่างทอง เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นนทบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก ฉะเชิงเทรา ระยอง ตราด กระบี่ นครศรีธรรมราช ชุมพร สงขลา ตรัง ระนอง สุราษฎร์ธานี นราธิวาส พังงา พัทลุง ภูเก็ต และสตูล
จากการประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2548 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธาน ได้กำหนดนโยบาย/มาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งในช่วงเดือนมี.ค. —มิ.ย. 2548 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ทุกจังหวัดได้ทราบและถือปฏิบัติแล้ว
- ในเขตลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ขอให้งดการปลูกข้าวนาปรังครั้งที่ 2 โดยเด็ดขาด
- อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในขั้นวิกฤต 6 อ่างได้แก่ อ่างน้ำเขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนกระเสียว เขื่อนทับเสลา เขื่อนแก่งกระจาน และเขื่อนปราณบุรี ให้งดปลูกพืชฤดูแล้งและสงวนน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค เท่านั้น
- ให้จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดระบบการแจกจ่ายน้ำโดยประสานกับจุดจ่ายน้ำของ ทส. 2,000 แห่ง กปภ. 528 หน่วยบริการ
- ขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดเล็กประมาณ 14,000 แห่ง โดยใช้แรงงานท้องถิ่นในฤดูแล้งนี้และจะมีน้ำใช้ในฤดูฝนทิ้งช่วง (โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเบื้องต้น)
กระทรวงมหาดไทย ได้เร่งรัดให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 784,091,141 บาท ดังนี้
1) งบฉุกเฉินทดลองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 591,021,172 บาท
2) งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเงิน 119,720,841 บาท
3) งบประมาณอื่นๆ เช่นงบจังหวัด CEO เป็นเงิน 73,349,128 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--
1.สถานการณ์ความแห้งแล้ง มีจังหวัดประสบภัย จำนวน 63 จังหวัด 631 อำเภอ 59 กิ่งอำเภอ 4,701 ตำบล 41,099 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 55.56 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ 73,963 หมู่บ้าน) (ข้อมูลถึงวันที่ 3 มีนาคม 2548 คาดว่าช่วงระหว่างเดือนมีนาคม —พฤษภาคม 2548 จะมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความ แห้งแล้งทั่วประเทศ จำนวน 70 จังหวัด 643 อำเภอ 60 กิ่งอำเภอ
- มีพื้นที่ประสบภัยแล้งรุนแรง จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา นครสวรรค์ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด
- มีพื้นที่ประสบภัยแล้งปานกลาง จำนวน 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร อุทัยธานี พิจิตร ตาก อุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ เลย กาญจนบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สระบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรีและชลบุรี
- มีพื้นที่ประสบภัยแล้งเล็กน้อย จำนวน 37 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ พะเยา พิษณุโลก ลำปาง น่าน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู มุกดาหาร ราชบุรี ชัยนาท อ่างทอง เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นนทบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก ฉะเชิงเทรา ระยอง ตราด กระบี่ นครศรีธรรมราช ชุมพร สงขลา ตรัง ระนอง สุราษฎร์ธานี นราธิวาส พังงา พัทลุง ภูเก็ต และสตูล
จากการประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2548 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธาน ได้กำหนดนโยบาย/มาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งในช่วงเดือนมี.ค. —มิ.ย. 2548 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ทุกจังหวัดได้ทราบและถือปฏิบัติแล้ว
- ในเขตลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ขอให้งดการปลูกข้าวนาปรังครั้งที่ 2 โดยเด็ดขาด
- อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในขั้นวิกฤต 6 อ่างได้แก่ อ่างน้ำเขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนกระเสียว เขื่อนทับเสลา เขื่อนแก่งกระจาน และเขื่อนปราณบุรี ให้งดปลูกพืชฤดูแล้งและสงวนน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค เท่านั้น
- ให้จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดระบบการแจกจ่ายน้ำโดยประสานกับจุดจ่ายน้ำของ ทส. 2,000 แห่ง กปภ. 528 หน่วยบริการ
- ขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดเล็กประมาณ 14,000 แห่ง โดยใช้แรงงานท้องถิ่นในฤดูแล้งนี้และจะมีน้ำใช้ในฤดูฝนทิ้งช่วง (โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเบื้องต้น)
กระทรวงมหาดไทย ได้เร่งรัดให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 784,091,141 บาท ดังนี้
1) งบฉุกเฉินทดลองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 591,021,172 บาท
2) งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเงิน 119,720,841 บาท
3) งบประมาณอื่นๆ เช่นงบจังหวัด CEO เป็นเงิน 73,349,128 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--