คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รับซื้อข้าวเปลือกอายุสั้นในราคาที่คณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงกำหนดในราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้า 100 % ตันละ 8,189 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 25 % ตันละ 7,789 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอายุสั้น ซึ่งไม่สามารถเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ โดยเพิ่มช่องทางจำหน่ายและเป็นทางเลือกให้สามารถนำข้าวเปลือกมาจำหน่ายกับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการได้ สำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในพื้นที่ปลูกข้าว มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
ข้อเท็จจริง
กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร สรุปได้ดังนี้
1. การเปิดจุดรับซื้อ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2552 มีโรงสีที่เข้าร่วมโครงการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือกกับองค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร แล้ว รวม 521 โรง จำแนกเป็นสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 313 โรง แจ้งความประสงค์แต่ยังไม่สมัคร จำนวน 208 โรง สามารถเปิดจุดรับซื้อข้าว ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 จำนวน 18 โรง ใน 10 จังหวัด ได้แก่ จ.พิษณุโลก (3 โรง) กำแพงเพชร (2 โรง) นนทบุรี (1 โรง) สิงห์บุรี (3 โรง) พระนครศรีอยุธยา (1 โรง) สุพรรณบุรี (1 โรง) ชัยนาท (4 โรง) สุโขทัย (1 โรง) เชียงใหม่ (1 โรง) และปทุมธานี (1 โรง)
2. ภาวะการค้าข้าว ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 ราคาข้าวเปลือกที่รับซื้อในตลาด สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูใหม่ปี 52/53 ราคาตันละ 13,100 — 14,100 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 8,000 — 9,000 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 8,900 — 9,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียวชนิดคละ ตันละ 7,200 — 7,400 บาท
3. การกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง นายกรัฐมนตรีประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ได้เห็นชอบการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างของการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/53 ช่วงระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2552 สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,840 บาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัด ตันละ 13,729 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,389 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 9,175 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 7,680 บาท
สำหรับอัตราชดเชยที่เกษตรกรจะได้รับข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 460 บาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัด ตันละ 571 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,611 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 825 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 1,820 บาท
4. ปัญหาการร้องเรียนของเกษตรกร ในการเดินทางไปตรวจเยี่ยมการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และสุโขทัย ได้รับการร้องเรียน ดังนี้
(1) เกษตรกรที่ปลูกข้าวอายุสั้น (ต่ำกว่า 100 วัน) ซึ่งเป็นข้าวเปลือกเจ้าชนิด 10% และ 25% ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ของรัฐบาลได้ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรให้สามารถนำข้าวมาจำหน่ายใน โครงการแทรกแซงตลาดที่ อคส./อ.ต.ก. เปิดจุดรับซื้อได้ คณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงได้กำหนดราคารับซื้อ สำหรับข้าวเปลือกเจ้าดังกล่าว โดยข้าวเปลือกเจ้า 10% รับซื้อในราคาตันละ 8,189 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 25% รับซื้อในราคาตันละ 7,789 บาท
ทั้งนี้ ได้ประสานกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบว่ามีเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว โดยมีพื้นที่ปลูกข้าวอายุสั้น (น้อยกว่า 100 วัน) ประมาณ 1,021,673 ไร่ ในหลายจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย ปราจีนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี เป็นต้น ประกอบกับการกำหนดนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาลเพิ่งเริ่มดำเนินการเป็นปีแรก และเกษตรกรได้มีการเพาะปลูกไปก่อนหน้านั้นแล้ว
(2) ได้รับรายงานปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทำให้พื้นที่ปลูกข้าวได้รับความเสียหายบางส่วน ขอให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 --จบ--