คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) กู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/53 ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 โดย 1. ให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ 2. ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้และจัดสรรเงินเพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย
ข้อเท็จจริง
1. เพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 20 ตุลาคม 2552 ได้มีการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2552 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติพิจารณาเกี่ยวกับการจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมเงินสำหรับใช้ดำเนินการแทรกแซงรับซื้อข้าวเปลือกตามโครงการ และได้มีมติให้ใช้แหล่งเงินจาก ธ.ก.ส. โดยให้ อคส. และ อ.ต.ก. เป็นผู้ยืมเงินเพื่อการนี้
2. ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. 2498 มาตรา 7 (5) กำหนดว่าการกู้ยืมเงิน ถ้าจำนวนเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท ต้องได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรีก่อน และ อคส. จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า ตามมาตรา 17 (1)
3. คณะกรรมการองค์การคลังสินค้า ได้ประชุมเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 และมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ให้องค์การคลังสินค้ากู้ยืมเงินมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือกในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท โดยพิจารณาจากสัดส่วนผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำที่ผ่านมาซึ่ง อคส. จะมีการรับจำนำมากกว่า อ.ต.ก. ในสัดส่วน 2 : 1
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 --จบ--