ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 11, 2009 13:38 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย

และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

ข้อเท็จจริง

กระทรวงแรงงานเสนอว่า

1. พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ได้บัญญัติให้ความคุ้มครองความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้แก่ลูกจ้างไว้ ทั้งนี้ มาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ให้อำนาจแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในการออกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานให้นายจ้างดำเนินการในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยที่ลูกจ้างซึ่งต้องทำงานภายใต้ภาวะแวดล้อมอันอาจ ก่อให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้า อาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อการทำงานจนเป็นเหตุให้ลูกจ้างประสบอันตราย

2. พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มีบทเฉพาะกาลให้ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า ลงวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2522 ซึ่งออกตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2515 ยังคงใช้ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ แต่การนำประกาศกระทรวงมหาดไทยที่ออกตามประกาศของคณะปฏิวัติฯ มาบังคับใช้ ทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายอยู่ตลอดมา ประกอบกับสถานประกอบกิจการที่มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ปลอดภัยอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้างได้ สมควรจะมีกฎหมายเพื่อให้การคุ้มครองความปลอดภัยในการทำงานแก่ลูกจ้าง จึงได้ปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวให้มีความทันสมัย ถูกต้องตามหลักวิชาการเกี่ยวกับไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจัดทำเป็นร่างกฎกระทรวงตามที่เสนอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง

3. ร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งเป็นคณะกรรมการไตรภาคีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากร่างกฎกระทรวงด้วย โดยวิธีการจัดสัมมนาไตรภาคีเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2552 มีผู้เข้าร่วมการสัมมนา 200 คน ประกอบด้วย ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาเห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้ให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นทางเว็บไซต์ของกระทรวง

สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง

1. หมวด 1 บททั่วไป ซึ่งประกอบด้วยการรับรองแผนผังวงจรไฟฟ้า การตรวจสอบการทำงานของลูกจ้างที่ใกล้กับไฟฟ้า การใช้เครื่องเป่าลมที่มีกำลังดันสูง การใช้ไฟฉาย การติดตั้งเต้ารับ การติดตั้งบริภัณฑ์ไฟฟ้า (ร่างข้อ 3 ถึงร่างข้อ 16)

2. หมวด 2 การติดตั้งบริภัณฑ์ไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยการใช้หม้อแปลงเครื่องวัดที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงกว่า 750 โวลต์ การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (ร่างข้อ 17 ถึงร่างข้อ 18)

3. หมวด 3 การติดตั้งระบบป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งประกอบด้วยการต่อสายดินและมาตรฐานของสายดินของปล่องควันต้องเป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) หรือการไฟฟ้าประจำท้องถิ่น รัศมีคุ้มกันของระบบห้องกันฟ้าผ่าที่ปล่องควัน อยู่ภายในกรวยที่มีรัศมีที่มีพื้นดินเท่ากับความสูงของเสาล่อฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอื่นๆ การติดตั้งระบบล่อฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าถังเก็บของเหลวไวไฟหรือก๊าซไวไฟ การติดตั้งระบบป้องกันฟ้าผ่าของอาคารมาตรฐานของ ว.ส.ท. (ร่างข้อ 19 ถึงร่างข้อ 28)

4. หมวด 4 การใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยการจัดอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเพียงพอ มาตรฐานของอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (มอก.) หรือมาตรฐานที่อธิบดีกำหนด การตรวจสอบ บำรุงรักษา ทดสอบตามมาตรฐาน และวิธีที่ผู้ผลิตกำหนดในระยะเวลาที่เหมาะสม (ร่างข้อ 29 ถึงร่างข้อ 31)

5. หมวด 5 เบ็ดเตล็ด ซึ่งประกอบด้วยการจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย เกี่ยวกับไฟฟ้า การอบรมลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และหลักสูตรที่อธิบดีประกาศกำหนดการจัดทำแผ่นภาพและคำบรรยายเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติเมื่อมีการประสบอันตรายจากไฟฟ้า การปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตโดยวิธีปากเป่าอากาศและวิธีนวดหัวใจ รวมทั้งการจัดแสงสว่าง (ร่างข้อ 32 ถึงร่างข้อ 36)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ