ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและจีนว่าด้วยความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่

เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและจีนว่าด้วยความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่

(ASEAN — China MOU On Cooperation in the Field of Non — traditional Security Issues)

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและจีนว่าด้วยความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ (ASEAN — China MOU On Cooperation in the Field of Non — traditional Security Issues)

2. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้กับเลขาธิการอาเซียนในนามรัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียน (รวมทั้งรัฐบาลไทย) ไปลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวด้วย

ข้อเท็จจริง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอว่า เนื่องด้วยการประชุมหัวหน้าเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 9 (9th SOMTC) (ภายในกรอบการประชุมหารือระหว่างอาเซียน-จีน) ได้มีมติมอบหมายให้จัดตั้งคณะทำงานขึ้น เพื่อยกร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและจีน ว่าด้วยความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ (ASEAN — China MOU On Cooperation in the Field of Non — traditional Security Issues) เพื่อให้มีการพิจารณาลงนามให้มีผลบังคับใช้แทนบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับปัจจุบันที่จะสิ้นสุดผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2553 ซึ่งที่ประชุมคณะทำงานได้ดำเนินการยกร่างบันทึกความเข้าใจฯ เมื่อวันที่ 16 — 20 สิงหาคม 2552 ณ สหภาพพม่า และสาธารณรัฐประชาชนจีน เสร็จสิ้นแล้ว

สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ

1. ประเทศภาคีจะจัดทำยุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมโดยให้สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบภายในของประเทศภาคี เพื่อส่งเสริมศักยภาพของแต่ละประเทศและของภูมิภาคในการแก้ไขปัญหาในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ดังเช่น การก่อการร้าย การลักลอบค้ายาเสพติด การลักลอบขนคนเข้าเมือง การลักลอบค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้าหญิงและเด็ก การลักลอบค้าอาวุธ การกระทำอันเป็นโจรสลัด การฟอกเงิน อาชญากรรมด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และอาชญากรรมอื่น ๆ ในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ ตามที่ประเทศภาคีได้ตกลงร่วมกัน (ร่างมาตรา 1)

2. ประเทศภาคีได้กำหนดสาขาความสนใจร่วมกันในความร่วมมือที่ระบุในมาตรา 1 ด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การแลกเปลี่ยนบุคลากรและการฝึกอบรมการบังคับใช้กฎหมาย และการวิจัยร่วมกัน (ร่างมาตรา 2)

3. ประเทศภาคีเห็นพ้องว่าหน่วยงานที่จะเป็นผู้ปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ (ร่างมาตรา 3) คือ

3.1 หน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน และ

3.2 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของสาธารณรัฐประชาชนจีน

4. จีนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การฝึกอบรมและกิจกรรมต่างๆ ที่จีนจะจัดขึ้นตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ซึ่งจะครอบคลุมค่าอาหาร ที่พัก และค่าเดินทางภายในประเทศสำหรับผู้เข้ารับการอบรมจากประเทศสมาชิกอาเซียนในช่วงที่พำนักอยู่ในประเทศจีน ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาบรรยาย ส่วนประเทศผู้ส่งจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างประเทศ เว้นแต่จะตกลงเป็นอย่างอื่น (ร่างมาตรา 4)

5. ข้อมูลสารสนเทศ เอกสาร ข้อมูล อุปกรณ์ หรือเทคโนโลยี ที่ได้รับตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะต้องไม่นำไปเปิดเผยหรือเผยแพร่ให้แก่บุคคลที่สาม ยกเว้นภายใต้ขอบเขตที่ได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากประเทศที่เป็นเจ้าของ (ร่างมาตรา 5)

6. ประเทศภาคีขอสงวนสิทธิ์สำหรับเหตุผลในเรื่องความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อยสาธารณะหรือด้านสาธารณสุข เพื่อหยุดการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนชั่วคราว การยุติไว้ชั่วคราวนั้นจะมีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากที่ได้มีการแจ้งให้ประเทศภาคีอื่นๆ ทราบผ่านช่องทางทางการทูต (ร่างมาตรา 6)

7. บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ลงนาม และหลังจากนั้นจะต่อสัญญาใหม่ได้ หากได้รับการยินยอมจากประเทศภาคี (ร่างมาตรา 9)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 --จบ--