คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือในระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึง
4 พฤษภาคม2549 ประกอบด้วย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ สถานการณ์น้ำ ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง และแผนปฏิบัติการฝนหลวง
ดังนี้
1. ผลกระทบด้านการเกษตรจากภัยแล้ง รายงานพื้นที่การเกษตรอาจได้รับผลกระทบ ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2549 ดังนี้
1.1 ด้านพืช พื้นที่ทำการเกษตรอาจได้รับผลกระทบ จำนวน 19 จังหวัด คือ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงใหม่ พิจิตร
พิษณุโลก แพร่ ลำปาง สุโขทัย นครพนม ยโสธร เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ขอนแก่น สิงห์บุรี จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี
และพังงา พื้นที่ 513,144 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 214,551 ไร่ พืชไร่-พืชผัก 165,797.50 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 132,795.50 ไร่
1.2 ด้านประมง ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 จังหวัด คือ จังหวัดเลย มหาสารคาม และอุบลราชธานี พื้นที่เพาะเลี้ยง
สัตว์น้ำ 252 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 3,416 ตารางเมตร
1.3 ด้านปศุสัตว์ สัตว์ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 จังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก ลำปาง และชัยนาท จำนวน 22,709 ตัว
แบ่งเป็น โค 7,108 ตัว กระบือ 523 ตัว แพะ 485 ตัว สัตว์ปีก 14,593 ตัว
พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบด้านพืช หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจะเกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ
190,560,944 บาท (ที่ระดับความเสียหายร้อยละ 10)
1.4 การเปรียบเทียบ พื้นที่การเกษตรด้านพืชที่ได้รับผลกระทบปี2548 จำนวน 1,043,439 ไร่ ในปี 2549 มีพื้นที่ได้
รับผลกระทบ จำนวน 513,144 ไร่ น้อยกว่าปี 2548 จำนวน 530,295 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 51 ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการ
ติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือพื้นที่อาจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยการปฏิบัติการฝนหลวง การจัดสรรน้ำ การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
และรถยนต์บรรทุกน้ำ ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่ต่างๆ ทำให้พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบลดลงในสัปดาห์นี้ จำนวน 7,769 ไร่ รวมพื้นที่ลดลง จำนวน
466,411.50 ไร่ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ช่วยเหลือได้ 182,455,614.00 บาท คงเหลือพื้นที่ที่ต้องได้รับความช่วยเหลืออีก 46,732.50 ไร่
2. ผลกระทบด้านการเกษตรจากวาตภัย รายงานพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2549 ดังนี้
ด้านพืช พื้นที่ทำการเกษตรได้รับผลกระทบ ระหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ถึง 20 เมษายน 2549 จำนวน 23 จังหวัด (เพิ่มขึ้นจาก
สัปดาห์ก่อน 6 จังหวัด) ได้แก่ จังหวัดตาก กำแพงเพชร เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ลำพูน ขอนแก่น ชัยภูมิ
นครราชสีมา มุกดาหาร เลย หนองคาย อุดรธานี กรุงเทพ ปทุมธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร และสุราษฎร์ธานี พื้นที่ประสบภัย 29,416.25
ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 23,117.25 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 698 ไร่ พืชไร่-พืชผัก 12,533.50 ไร่ พืชอื่นๆ 9,885.75 ไร่ และเห็ด 50,000 ก้อน
3. การให้ความช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเกษตรกร
ดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวง การจัดสรรน้ำ การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ การสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ และการ
ส่งเสริมอาชีพ ดังนี้
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินการแล้ว (สะสม) ช่วงวันที่ 28 เม.ย. - 4 พ.ค. 49
1. การปฏิบัติการฝนหลวง - ขึ้นปฏิบัติการ 1,931 เที่ยวบิน - ขึ้นปฏิบัติการ 114 เที่ยวบิน
โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 8 หน่วย - มีปริมาณฝนตกเล็กน้อย-ปานกลางถึงหนัก - มีปริมาณฝนตกเล็กน้อย-ปานกลาง
(เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ใน 65 จังหวัด ถึงหนัก ใน 53 จังหวัด
ระยอง หัวหิน สุราษฎร์ธานี) และ 6 ฐานเติมสาร - มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเป้าหมาย - มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเป้าหมาย
ฝนหลวง (ตาก นครสวรรค์ อุดรธานี อุบลราชธานี 11 อ่าง รวม 311.32 ล้านลบ.ม. 11 อ่าง รวม 35.82 ล้านลบ.ม.
จันทบุรี และภูเก็ต) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2549
2. ด้านชลประทาน ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 48 — 30 เม.ย. 49
2.1 การจัดสรรน้ำ เพื่อการเกษตร การประปา ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
การเดินเรือและผลักดันน้ำเค็ม จำนวน 17,740 ล้าน ลบ.ม. จำนวน 359 ล้าน ลบ.ม.
2.2 สนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถยนต์บรรทุกน้ำ - เครื่องสูบน้ำ 803 เครื่อง ช่วยเหลือ - เครื่องสูบน้ำ 803 เครื่อง
พื้นที่การเกษตรได้ 589,907 ไร่ - รถยนต์บรรทุกน้ำ 57 คัน
แบ่งเป็นข้าว 533,118 ไร่
พืชไร่-พืชผัก 52,789 ไร่ และ
ช่วยเหลือการอุปโภค-บริโภค
16.49 ล้าน ลบ.ม.
- รถยนต์บรรทุกน้ำ 57 คัน ช่วยเหลือได้
1,072 ครัวเรือน ปริมาณน้ำ 6.61 ล้านลิตร
3. ด้านปศุสัตว์ สนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ 52,000 กิโลกรัม -
เวชภัณฑ์ 2,442 ซอง แร่ธาตุ 926 ก้อน
4. ด้านการส่งเสริมอาชีพ เช่น
- การปลูกพืชใช้น้ำน้อย ได้แก่ การเพาะเห็ด - กลุ่มสตรี/กลุ่มอาชีพ/สหกรณ์ 169 1. จัดสรรงบประมาณเพื่อการอบรม
ปลูกดอกแกลดิโอลิส ถั่วเหลือง กลุ่ม/สหกรณ์ จำนวนสมาชิก 6,472 ราย ถ่ายทอดเทคโนโลยี กลุ่มละ
ปลูกผักปลอดสารพิษ การผลิตมะนาวนอกฤดู - กลุ่มเกษตรกร 1,355 กลุ่ม จำนวน 16,000 บาท
ในวงบ่อ สมาชิก 24,721 ราย 2. พัฒนาการผลิตทำงบต้นทุนการผลิตให้
- การเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ เลี้ยงโคขุน แก่กลุ่มผู้ผลิต
- การส่งเสริมอาชีพเสริม ได้แก่ การทำปุ๋ยหมัก 3. จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนของกลุ่ม
การแปรรูปผลผลิตการเกษตร การทอผ้า จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์การผลิต กลุ่มละ
หัตถกรรม ดอกไม้ประดิษฐ์ 40,000 บาท
5. ด้านการปรับปรุงบำรุงดิน ดำเนินการรวมพื้นที่ 322,135 ไร่ ดำเนินการในพื้นที่ 30,956 ไร่ แบ่งเป็น
เป้าหมาย ใน 75 จังหวัด พื้นที่ 921,025 ไร่ แบ่งเป็น ในเขตชลประทาน 42,374 ไร่ เขตชลประทาน 10,468 ไร่
แบ่งเป็น ในเขต 154,443 ไร่ นอกเขต นอกเขตชลประทาน 279,761 ไร่ นอกเขตชลประทาน 20,488 ไร่
766,582 ไร่
4. สถานการณ์น้ำและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
4.1 สถานการณ์น้ำ
- ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2549 มีปริมาตร น้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 43,415
ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ ซึ่งมากกว่าปี 2548 จำนวน 7,678 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงเวลาเดียวกัน
- อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์น้อย จำนวน 2 อ่างฯ คือ อุบลรัตน์ และบางพระ มีการประชาสัมพันธ์
ให้งดการปลูกพืชฤดูแล้ง และให้สงวนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ซึ่งจะมีเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง สำหรับอ่างเก็บน้ำลำนางรอง มีปริมาณน้ำในอ่างฯ
ร้อยละ 31 และอ่างเก็บน้ำทับเสลา มีปริมาณน้ำในอ่างฯร้อยละ 35 มีการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเดียวและมีการใช้น้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย
ประมาณ วันละ 0.04-0.05 ล้านลบ.ม. ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำในอ่างฯที่มีอยู่ ประกอบกับใกล้เข้าสู่ต้นฤดูฝน สภาพน้ำในอ่างฯทั้งสอง
จึงมีปริมาณน้ำเพียงพอและจะไม่เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด
4.2 การปลูกพืชฤดูแล้ง ณ วันที่ 30 เมษายน 2549
หน่วย : ล้านไร่
พื้นที่ ในเขตชลประทาน นอกเขตชลประทาน รวม
ชนิดพืช ข้าว พืชไร่-พืชผัก รวม ข้าว พืชไร่-พืชผัก รวม ข้าว พืชไร่-พืชผัก รวม
เป้าหมาย 5.84 0.87 6.71 1.94 1.79 3.73 7.78 2.66 10.44
ปลูกแล้ว 9.23 0.77 10.00 2.74 1.82 4.56 11.97 2.59 14.56
เก็บเกี่ยว 4.30 0.27 4.57 0.83 0.73 1.56 5.13 1.00 6.13
พื้นที่ยังไม่เก็บเกี่ยว 4.93 0.50 5.43 1.91 1.09 3.00 6.84 1.59 8.43
5. แผนการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 5-11 พฤษภาคม 2549
กิจกรรม แผนการดำเนินการ
1. การปฏิบัติการฝนหลวง 1. เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกใน 44 จังหวัด
โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 8 หน่วย 2. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้เพื่อลดความรุนแรงของไฟป่า
(เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี 3. เพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ
ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง หัวหิน สุราษฎร์ธานี) เป้าหมาย 11 อ่าง ได้แก่ ทับเสลา กระเสียว อุบลรัตน์
และ 6 ฐานเติมสารฝนหลวง มูลบน ลำแซะ ลำตะคอง ลำนางรอง บางพระ ดอกกราย
(ตาก นครสวรรค์ อุดรธานี อุบลราชธานี จันทบุรี และภูเก็ต) หนองปลาไหล และบางวาด
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2549
2. ด้านชลประทาน - เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 1,200 เครื่อง แยกเป็น
มีแผนเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และรถยนต์บรรทุกน้ำ ภาคเหนือ 285 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 340 เครื่อง
เพื่อช่วยเหลือการเพาะปลูกพืช การอุปโภค-บริโภคในช่วงฤดูแล้ง ภาคกลาง 270 เครื่อง ภาคตะวันออก 70 เครื่อง
จำนวน 1,200 เครื่อง และ 295 คัน ตามลำดับ ภาคตะวันตก 60 เครื่อง และภาคใต้ 175 เครื่อง
- รถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน 295 ค้น แยกเป็น ภาคเหนือ
55 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 คัน ภาคกลาง 36 คัน
ภาคตะวันออก 64 คัน ภาคตะวันตก 14 คัน และภาคใต้ 36 คัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 พฤษภาคม 2549--จบ--
4 พฤษภาคม2549 ประกอบด้วย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ สถานการณ์น้ำ ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง และแผนปฏิบัติการฝนหลวง
ดังนี้
1. ผลกระทบด้านการเกษตรจากภัยแล้ง รายงานพื้นที่การเกษตรอาจได้รับผลกระทบ ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2549 ดังนี้
1.1 ด้านพืช พื้นที่ทำการเกษตรอาจได้รับผลกระทบ จำนวน 19 จังหวัด คือ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงใหม่ พิจิตร
พิษณุโลก แพร่ ลำปาง สุโขทัย นครพนม ยโสธร เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ขอนแก่น สิงห์บุรี จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี
และพังงา พื้นที่ 513,144 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 214,551 ไร่ พืชไร่-พืชผัก 165,797.50 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 132,795.50 ไร่
1.2 ด้านประมง ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 จังหวัด คือ จังหวัดเลย มหาสารคาม และอุบลราชธานี พื้นที่เพาะเลี้ยง
สัตว์น้ำ 252 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 3,416 ตารางเมตร
1.3 ด้านปศุสัตว์ สัตว์ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 จังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก ลำปาง และชัยนาท จำนวน 22,709 ตัว
แบ่งเป็น โค 7,108 ตัว กระบือ 523 ตัว แพะ 485 ตัว สัตว์ปีก 14,593 ตัว
พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบด้านพืช หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจะเกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ
190,560,944 บาท (ที่ระดับความเสียหายร้อยละ 10)
1.4 การเปรียบเทียบ พื้นที่การเกษตรด้านพืชที่ได้รับผลกระทบปี2548 จำนวน 1,043,439 ไร่ ในปี 2549 มีพื้นที่ได้
รับผลกระทบ จำนวน 513,144 ไร่ น้อยกว่าปี 2548 จำนวน 530,295 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 51 ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการ
ติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือพื้นที่อาจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยการปฏิบัติการฝนหลวง การจัดสรรน้ำ การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
และรถยนต์บรรทุกน้ำ ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่ต่างๆ ทำให้พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบลดลงในสัปดาห์นี้ จำนวน 7,769 ไร่ รวมพื้นที่ลดลง จำนวน
466,411.50 ไร่ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ช่วยเหลือได้ 182,455,614.00 บาท คงเหลือพื้นที่ที่ต้องได้รับความช่วยเหลืออีก 46,732.50 ไร่
2. ผลกระทบด้านการเกษตรจากวาตภัย รายงานพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2549 ดังนี้
ด้านพืช พื้นที่ทำการเกษตรได้รับผลกระทบ ระหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ถึง 20 เมษายน 2549 จำนวน 23 จังหวัด (เพิ่มขึ้นจาก
สัปดาห์ก่อน 6 จังหวัด) ได้แก่ จังหวัดตาก กำแพงเพชร เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ลำพูน ขอนแก่น ชัยภูมิ
นครราชสีมา มุกดาหาร เลย หนองคาย อุดรธานี กรุงเทพ ปทุมธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร และสุราษฎร์ธานี พื้นที่ประสบภัย 29,416.25
ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 23,117.25 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 698 ไร่ พืชไร่-พืชผัก 12,533.50 ไร่ พืชอื่นๆ 9,885.75 ไร่ และเห็ด 50,000 ก้อน
3. การให้ความช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเกษตรกร
ดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวง การจัดสรรน้ำ การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ การสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ และการ
ส่งเสริมอาชีพ ดังนี้
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินการแล้ว (สะสม) ช่วงวันที่ 28 เม.ย. - 4 พ.ค. 49
1. การปฏิบัติการฝนหลวง - ขึ้นปฏิบัติการ 1,931 เที่ยวบิน - ขึ้นปฏิบัติการ 114 เที่ยวบิน
โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 8 หน่วย - มีปริมาณฝนตกเล็กน้อย-ปานกลางถึงหนัก - มีปริมาณฝนตกเล็กน้อย-ปานกลาง
(เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ใน 65 จังหวัด ถึงหนัก ใน 53 จังหวัด
ระยอง หัวหิน สุราษฎร์ธานี) และ 6 ฐานเติมสาร - มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเป้าหมาย - มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเป้าหมาย
ฝนหลวง (ตาก นครสวรรค์ อุดรธานี อุบลราชธานี 11 อ่าง รวม 311.32 ล้านลบ.ม. 11 อ่าง รวม 35.82 ล้านลบ.ม.
จันทบุรี และภูเก็ต) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2549
2. ด้านชลประทาน ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 48 — 30 เม.ย. 49
2.1 การจัดสรรน้ำ เพื่อการเกษตร การประปา ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
การเดินเรือและผลักดันน้ำเค็ม จำนวน 17,740 ล้าน ลบ.ม. จำนวน 359 ล้าน ลบ.ม.
2.2 สนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถยนต์บรรทุกน้ำ - เครื่องสูบน้ำ 803 เครื่อง ช่วยเหลือ - เครื่องสูบน้ำ 803 เครื่อง
พื้นที่การเกษตรได้ 589,907 ไร่ - รถยนต์บรรทุกน้ำ 57 คัน
แบ่งเป็นข้าว 533,118 ไร่
พืชไร่-พืชผัก 52,789 ไร่ และ
ช่วยเหลือการอุปโภค-บริโภค
16.49 ล้าน ลบ.ม.
- รถยนต์บรรทุกน้ำ 57 คัน ช่วยเหลือได้
1,072 ครัวเรือน ปริมาณน้ำ 6.61 ล้านลิตร
3. ด้านปศุสัตว์ สนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ 52,000 กิโลกรัม -
เวชภัณฑ์ 2,442 ซอง แร่ธาตุ 926 ก้อน
4. ด้านการส่งเสริมอาชีพ เช่น
- การปลูกพืชใช้น้ำน้อย ได้แก่ การเพาะเห็ด - กลุ่มสตรี/กลุ่มอาชีพ/สหกรณ์ 169 1. จัดสรรงบประมาณเพื่อการอบรม
ปลูกดอกแกลดิโอลิส ถั่วเหลือง กลุ่ม/สหกรณ์ จำนวนสมาชิก 6,472 ราย ถ่ายทอดเทคโนโลยี กลุ่มละ
ปลูกผักปลอดสารพิษ การผลิตมะนาวนอกฤดู - กลุ่มเกษตรกร 1,355 กลุ่ม จำนวน 16,000 บาท
ในวงบ่อ สมาชิก 24,721 ราย 2. พัฒนาการผลิตทำงบต้นทุนการผลิตให้
- การเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ เลี้ยงโคขุน แก่กลุ่มผู้ผลิต
- การส่งเสริมอาชีพเสริม ได้แก่ การทำปุ๋ยหมัก 3. จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนของกลุ่ม
การแปรรูปผลผลิตการเกษตร การทอผ้า จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์การผลิต กลุ่มละ
หัตถกรรม ดอกไม้ประดิษฐ์ 40,000 บาท
5. ด้านการปรับปรุงบำรุงดิน ดำเนินการรวมพื้นที่ 322,135 ไร่ ดำเนินการในพื้นที่ 30,956 ไร่ แบ่งเป็น
เป้าหมาย ใน 75 จังหวัด พื้นที่ 921,025 ไร่ แบ่งเป็น ในเขตชลประทาน 42,374 ไร่ เขตชลประทาน 10,468 ไร่
แบ่งเป็น ในเขต 154,443 ไร่ นอกเขต นอกเขตชลประทาน 279,761 ไร่ นอกเขตชลประทาน 20,488 ไร่
766,582 ไร่
4. สถานการณ์น้ำและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
4.1 สถานการณ์น้ำ
- ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2549 มีปริมาตร น้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 43,415
ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ ซึ่งมากกว่าปี 2548 จำนวน 7,678 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงเวลาเดียวกัน
- อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์น้อย จำนวน 2 อ่างฯ คือ อุบลรัตน์ และบางพระ มีการประชาสัมพันธ์
ให้งดการปลูกพืชฤดูแล้ง และให้สงวนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ซึ่งจะมีเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง สำหรับอ่างเก็บน้ำลำนางรอง มีปริมาณน้ำในอ่างฯ
ร้อยละ 31 และอ่างเก็บน้ำทับเสลา มีปริมาณน้ำในอ่างฯร้อยละ 35 มีการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเดียวและมีการใช้น้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย
ประมาณ วันละ 0.04-0.05 ล้านลบ.ม. ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำในอ่างฯที่มีอยู่ ประกอบกับใกล้เข้าสู่ต้นฤดูฝน สภาพน้ำในอ่างฯทั้งสอง
จึงมีปริมาณน้ำเพียงพอและจะไม่เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด
4.2 การปลูกพืชฤดูแล้ง ณ วันที่ 30 เมษายน 2549
หน่วย : ล้านไร่
พื้นที่ ในเขตชลประทาน นอกเขตชลประทาน รวม
ชนิดพืช ข้าว พืชไร่-พืชผัก รวม ข้าว พืชไร่-พืชผัก รวม ข้าว พืชไร่-พืชผัก รวม
เป้าหมาย 5.84 0.87 6.71 1.94 1.79 3.73 7.78 2.66 10.44
ปลูกแล้ว 9.23 0.77 10.00 2.74 1.82 4.56 11.97 2.59 14.56
เก็บเกี่ยว 4.30 0.27 4.57 0.83 0.73 1.56 5.13 1.00 6.13
พื้นที่ยังไม่เก็บเกี่ยว 4.93 0.50 5.43 1.91 1.09 3.00 6.84 1.59 8.43
5. แผนการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 5-11 พฤษภาคม 2549
กิจกรรม แผนการดำเนินการ
1. การปฏิบัติการฝนหลวง 1. เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกใน 44 จังหวัด
โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 8 หน่วย 2. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้เพื่อลดความรุนแรงของไฟป่า
(เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี 3. เพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ
ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง หัวหิน สุราษฎร์ธานี) เป้าหมาย 11 อ่าง ได้แก่ ทับเสลา กระเสียว อุบลรัตน์
และ 6 ฐานเติมสารฝนหลวง มูลบน ลำแซะ ลำตะคอง ลำนางรอง บางพระ ดอกกราย
(ตาก นครสวรรค์ อุดรธานี อุบลราชธานี จันทบุรี และภูเก็ต) หนองปลาไหล และบางวาด
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2549
2. ด้านชลประทาน - เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 1,200 เครื่อง แยกเป็น
มีแผนเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และรถยนต์บรรทุกน้ำ ภาคเหนือ 285 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 340 เครื่อง
เพื่อช่วยเหลือการเพาะปลูกพืช การอุปโภค-บริโภคในช่วงฤดูแล้ง ภาคกลาง 270 เครื่อง ภาคตะวันออก 70 เครื่อง
จำนวน 1,200 เครื่อง และ 295 คัน ตามลำดับ ภาคตะวันตก 60 เครื่อง และภาคใต้ 175 เครื่อง
- รถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน 295 ค้น แยกเป็น ภาคเหนือ
55 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 คัน ภาคกลาง 36 คัน
ภาคตะวันออก 64 คัน ภาคตะวันตก 14 คัน และภาคใต้ 36 คัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 พฤษภาคม 2549--จบ--