สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ครั้งที่ 2

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 18, 2009 13:39 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ครั้งที่ 2 ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย ผลกระทบด้านการเกษตร การให้ความช่วยเหลือ และสถานการณ์น้ำ สรุปได้ดังนี้

สถานการณ์อุทกภัย

จากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ในช่วงวันที่ 3 พ.ย.52 เป็นต้นมา ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ผลการทบด้านการเกษตร รวม 10 จังหวัด (ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ย. 52)

ด้านพืช 9 จังหวัด เกษตรกรประสบภัย 123,149 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 291,903 ไร่ แบ่งเป็นข้าว 157,027 ไร่ พืชไร่ 23,282 ไร่ และพืชสวน 111,594 ไร่

ด้านปศุสัตว์ 9 จังหวัด เกษตรกรประสบภัย 51,943 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 1,083,846 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 95,819 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 60,291 ตัว และสัตว์ปีก 927,736 ตัว แปลงหญ้า 4,714 ไร่

ด้านประมง 10 จังหวัด เกษตรกรประสบภัย 7,480 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย แบ่งเป็น บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 7,366 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 26,126 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 1,569 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 21,252 ตารางเมตร

การช่วยเหลือเบื้องต้น

1. สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 72 เครื่อง ได้แก่ นราธิวาส (15) ยะลา (8) สงขลา (43) และ นครศรีธรรมราช (6)

2. สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ 101.43 ตัน แร่ธาตุและเวชภัณฑ์ 198 ชุด และดูแลสุขภาพสัตว์ 18,924 ตัว

สถานการณ์น้ำ

1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (16 พฤศจิกายน 2552) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 55,450 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด น้อยกว่าปี 2551 (58,175 ล้าน ลบ.ม.) จำนวน 2,725 ล้านลบ.ม. ปริมาตรน้ำใช้การได้ 31,923 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำ น้อยกว่า ร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำแม่กวง (27%)

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำ มากกว่า ร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 14 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำแม่งัด(87%) จุฬาภรณ์(90%) ลำปาว(85%) สิรินธร(88%) ป่าสักชลสิทธิ์(99%) กระเสียว(86%) ศรีนครินทร์ (91%) วชิราลงกรณ์(89%) ขุนด่านฯ(84%) หนองปลาไหล(102%) ประแสร์(100%) แก่งกระจาน(88%) ปราณบุรี(91%) และรัชชประภา(89%)

อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำรวมกัน จำนวน 15,444 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุทั้งสองอ่างฯ น้อยกว่าปี 2551(18,206 ล้านลบ.ม.) จำนวน 2,762 ล้านลบ.ม.

2. สภาพน้ำท่า

ภาคเหนือ แม่น้ำปิง ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นบริเวณเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แม่น้ำน่าน ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดน่าน และอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก แม่น้ำวัง ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย และแม่น้ำยม ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม่น้ำชี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ยกเว้น บริเวณกิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม่น้ำมูล ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำปกติ ยกเว้น บริเวณอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก

ภาคกลาง แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำปกติ ยกเว้น บริเวณอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

ภาคใต้ ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้น บริเวณอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอห้วยยอด และอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง อำเภอละงู จังหวัดสตูลปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ