คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ระหว่างวันที่ 4 - 16 พฤศจิกายน 2552 สรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น รวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน ในห้วงเวลาดังกล่าว ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้และการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 4 — 16 พฤศจิกายน 2552)
1.1 พื้นที่ประสบภัย 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส รวม 99 อำเภอ 519 ตำบล 3,317 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 20 ราย (จ.ยะลา อ.รามัน 1 ราย อ.บันนังสตา 5 ราย อ.เมือง 1 ราย จ.พัทลุง อ.เมือง 1 ราย อ.ป่าบอน 1 ราย อ.ควนขนุน 1 ราย และ จ.นราธิวาส อ.ศรีสาคร 10 ราย) บาดเจ็บ 12 คน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 721,441 คน 198,366 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 17 หลัง เสียหายบางส่วน 1,941 หลัง ถนน 1,554 สาย สะพาน 158 แห่ง ฝาย/เหมือง 19 แห่ง วัด 23 แห่ง โรงเรียน 32 แห่ง บ่อน้ำ 270 แห่ง ท่อระบายน้ำ 176 แห่ง บ่อปลา/กุ้ง 4,636 บ่อ ปศุสัตว์ 3,805 ตัว สัตว์ปีก 34,943 ตัว พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเบื้องต้นประมาณ 126,653 ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 380,424,275 บาท
แยกเป็น
ที่ พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย
ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด คน ครัวเรือน
1 ใต้ 10 99 519 3,317 ชุมพร นราธิวาส นครศรีธรรมราช 721,441 198,366พัทลุง สงขลา สุราษฎร์ธานี ตรัง
สตูล ยะลา ปัตตานี
รวมทั้งประเทศ 10 99 519 3,317 721,441 198,366
ตารางสรุปความเสียหายจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ระหว่างวันที่ 4-16 พฤศจิกายน 2552)
ลำดับที่ ประเภทความเสียหาย จำนวนความเสียหาย
1 พื้นที่ประสบอุทกภัย 10 จังหวัด รวม 99 อำเภอ 519 ตำบล 3,317 หมู่บ้าน
2 ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 721,441 คน 198,366 ครัวเรือน
3 ผู้เสียชีวิต 20 ราย (ยะลา 7 ราย พัทลุง 3 ราย และนราธิวาส 10 ราย)
4 บาดเจ็บ 12 คน
5 บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 17 หลัง
6 บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 1,941 หลัง
7 ถนนเสียหาย 1,554 สาย
8 สะพาน 158 แห่ง
9 บ่อปลา/กุ้ง 4,636 บ่อ
10 ปศุสัตว์ 3,805 ตัว
11 สัตว์ปีก 34,943 ตัว
12 พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเบื้องต้นประมาณ 126,653 ไร่
13 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 380,424,275 บาท
1.2 สถานการณ์ปัจจุบัน สถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติทั้ง 10 จังหวัด แล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรบางพื้นที่
1.3 การให้ความช่วยเหลือของหน่วยงาน
1) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย ดังนี้
- เรือท้องแบน จำนวน 28 ลำ
- รถบรรทุก จำนวน 4 คัน
- รถเครน จำนวน 1 คัน
- ถุงยังชีพ จำนวน 1,012 ถุง
- เจ้าหน้าที่กู้ภัย และชุด ERT จำนวน 60 นาย
- รถยนต์กู้ภัยเอนกประสงค์ จำนวน 2 คัน2) การให้ความช่วยเหลือของจังหวัดที่ประสบภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งได้ระดมเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการฯ (งบ 50 ล้านบาท) ต่อไป
1.4 สิ่งของพระราชทาน
1) มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และจังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 8 - 9 พฤศจิกายน 2552 รวม 4,000 ชุด และที่จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสตูล ดังนี้
- วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 มอบสิ่งของพระราชทาน ที่จังหวัดพัทลุง ณ วัดท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จำนวน 500 ชุด และ ณ โรงเรียนวัดเขาอ้อ ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จำนวน 500 ชุด
- วันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 มอบสิ่งของพระราชทาน ที่จังหวัดสตูล ณ องค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง อำเภอละงู จำนวน 500 ชุด และ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสตูล จำนวน 500 ชุด
2) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ นำชุดธารน้ำใจพระราชทาน ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา ตรัง และจังหวัดนราธิวาส รวม 2,150 ชุด และมุ้งขนาดใหญ่ จำนวน 150 หลัง ดังนี้
- วันที่ 8 พฤศจิกายน 2552 มอบชุดธารน้ำใจฯ ที่จังหวัดยะลา ณ นิคมพัฒนาตนเอง บ้านกือลอง ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จำนวน 100 ชุด และมอบชุดธารน้ำใจฯ และชุดสุขอนามัยอย่างละ 250 ชุด มุ้งขนาดใหญ่ 150 หลัง ณ ที่ว่าการอำเภอยะหา
- วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 มอบชุดธารน้ำใจฯ ที่จังหวัดตรัง ณ ที่ว่าการอำเภอห้วยยอด จำนวน 400 ชุด
- วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 มอบนำชุดธารน้ำใจฯ ที่จังหวัดนราธิวาส ณ อำเภอเจาะไอร้อง และอำเภอระแงะ จำนวน 1,000 ชุด
- วันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 มอบนำชุดธารน้ำใจฯ ที่จังหวัดตรัง ณ อำเภอรัษฎา จำนวน 400 ชุด
3) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพและสิ่งของพระราชทาน ที่จังหวัดยะลา พัทลุง และจังหวัดนราธิวาส รวม 3,000 ชุด ดังนี้
- วันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 มอบสิ่งของพระราชทาน จังหวัดยะลา ณ ที่ว่าการอำเภอรามัน จำนวน 1,000 ชุด
- วันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 มอบสิ่งของพระราชทาน จังหวัดพัทลุง ที่วัดควนถบ ตำบลพญาขัน อำเภอเมือง จำนวน 1,000 ชุด
- วันที่ 15 พฤศจิกายน 2552 มอบสิ่งของพระราชทาน จังหวัดนราธิวาส ที่วัดสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จำนวน 1,000 ชุด
4) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ) และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงโปรดให้ผู้แทนพระองค์ มอบถุงพระราชทานในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 763 ชุด และจังหวัดนราธิวาส จำนวน 1,426 ชุด ดังนี้
- วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 จังหวัดนราธิวาส มอบถุงพระราชทานแก่ราษฎร จำนวน 710 ชุด ที่หอประชุมอำเภอศรีสาคร และมอบถุงพระราชทานแก่ราษฎร จำนวน 710 ชุด และถวายแด่พระภิกษุ 6 ชุด ที่วัดชลธราวาส (วัดร่อน) อำเภอระแงะ
1.5 การตรวจเยี่ยมประชาชนและติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ผู้ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เป็นผู้นำถุงยังชีพพระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปมอบแก่ผู้ได้รับความเดือดร้อน พร้อมด้วยปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายมานิต วัฒนเสน) รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ) และคณะ เดินทางไปมอบถุงยังชีพพระราชทาน ณ จังหวัดสงขลา พัทลุง และจังหวัดสตูล รวม 2,000 ชุด ดังนี้
- เวลา 09.00 น. มอบถุงยังชีพพระราชทาน ณ หอประชุมเทศบาลตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 500 ชุด
- เวลา 10.45 น. มอบถุงยังชีพพระราชทาน ณ หอประชุมประชาคม อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จำนวน 500 ชุด
- เวลา 13.50 น. มอบถุงยังชีพพระราชทาน ณ วัดแสงอรุณ (วัดปากประ) หมู่ที่ 8 ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง จำนวน 500 ชุด
- เวลา 15.40 น. มอบถุงยังชีพพระราชทาน ณ ศาลาประชาคม อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล จำนวน 500 ชุด
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 16 - 21 พฤศจิกายน 2552
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ในช่วงวันที่ 16-21 พฤศจิกายน 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีก ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรกและอากาศจะเย็นลง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรง ส่วนในภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมในอ่าวไทย จะมีกำลังแรง ในช่วงวันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2552
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศให้จังหวัดในภาคใต้ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรของประชาชนแล้ว และให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 --จบ--