ขอความเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 25, 2009 13:54 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการสนับสนุนแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ ดังนี้

1. ให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ดำเนินการก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรให้แล้วเสร็จครบตามจำนวน 281,556 หน่วย ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552

2. มาตรการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร

2.1 มาตรการด้านการตลาด

2.1.1 เห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เสนอขายโครงการในลักษณะยกอาคารหรือขายทั้งโครงการให้แก่หน่วยงานภาครัฐรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ โดยมีเงื่อนไขให้หน่วยงานภาครัฐนั้นๆ ต้องดูแลจัดสรรให้แก่ข้าราชการหรือพนักงานในสังกัดที่มีรายได้น้อย

2.1.2 เห็นชอบให้ กคช. ขายโครงการในลักษณะยกอาคารหรือขายทั้งโครงการให้แก่ภาคเอกชน โดยให้ กคช. จ้างบริษัทประเมินราคาตลาดอย่างน้อย 2 บริษัท เพื่อกำหนดราคาขาย ทั้งนี้ ราคาขายต้องไม่ต่ำกว่าที่ขายให้แก่ประชาชนทั่วไป

2.2 มาตรการด้านราคา

2.2.1 เห็นชอบให้ กคช. สามารถปรับราคาขายโครงการบ้านเอื้ออาทรตามทำเลและ ศักยภาพของโครงการ รวมถึงการปรับราคาขายที่มีความแตกต่างกันภายในโครงการเดียวกันให้เหมาะสมกับโอกาสทางการตลาด ทั้งนี้ ในการกำหนดนโยบายราคาดังกล่าว กคช. ควรคำนึงถึงปัจจัยเงินอุดหนุนของรัฐบาลโอกาสการเข้าถึงที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย ต้นทุนการดูแลรักษาระหว่างรอการขายและฐานะทางการเงินสุทธิของโครงการ

2.2.2 เห็นชอบให้ กคช. พิจารณาการผ่อนผัน / ผ่อนปรนในกรณีผู้มีรายได้น้อยมีปัญหาในการผ่อนชำระหรือค้างชำระโดยอาจปรับเปลี่ยนรูปแบบจากซื้อเป็นการเช่า หรือจัดทำสัญญาในรูปแบบอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านในกรณีที่ไม่ผ่านการพิจารณาจากสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามวัตถุประสงค์หลักของโครงการบ้านเอื้ออาทร

2.3 มาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขด้านกฎระเบียบ

2.3.1 เห็นชอบให้ กคช. ขายโครงการบ้านเอื้ออาทรได้โดยไม่จำกัดจำนวนหน่วยของผู้ซื้อแต่ละราย โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ซื้อได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ จำนวน 80,000 บาทต่อหน่วย เฉพาะ 2 หน่วยแรกเท่านั้น

2.3.2 เห็นชอบให้ยกเลิกข้อจำกัดการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเอื้ออาทร (ซึ่งจากเดิมผู้ซื้อบ้านเอื้ออาทรจะโอนกรรมสิทธิ์ได้เมื่อครบ 5 ปีแล้วเท่านั้น)

2.4 มาตรการเพิ่มเติม

เห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์เปลี่ยนหลักเกณฑ์การนับหนี้ค้างชำระสำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทร จากการนับระยะเวลาหนี้ค้างชำระเป็นจำนวนวัน (90 วัน) ให้เป็นการนับระยะหนี้ค้างชำระเป็นงวด (3 งวด) เหมือนเดิม เพื่อให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยโครงการบ้านเอื้ออาทรสามารถทยอยผ่อนชำระเงินกู้ที่ค้างชำระโดยไม่เป็น NPL เนื่องจากการนับระยะเวลาหนี้ค้างชำระเป็นวันผู้กู้จะต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างทั้งจำนวนไม่สามารถแบ่งชำระได้ ดังนั้น เมื่อผู้กู้ไม่สามารถชำระได้ทั้งหมดจะถือเป็น NPL และ กคช. ต้องรับซื้อคืนจากธนาคารเพื่อนำมาขายใหม่ต่อไป ส่งผลให้ผู้ซื้อบ้านเอื้ออาทรต้องออกจากระบบสินเชื่อและสูญเสียที่อยู่อาศัย รวมทั้งเป็นภาระกับรัฐบาลที่ต้องขยายวงเงินเบิกเกินบัญชีเพิ่มและต้องรับภาระดอกเบี้ยจากวงเงินเบิกเกินบัญชีเพื่อการซื้อคืน

สำหรับมาตรการอื่น ๆ ได้แก่ มาตรการด้านบริการพื้นฐาน มาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาว และมาตรการลดภาระต้นทุนทางการเงิน ตามความเห็นของคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงสร้างบ้านเอื้ออาทรนั้น พม. ได้พิจารณาดำเนินการ โดยมอบให้ กคช. ประสานกับกระทรวงกลาโหม (กห.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อยู่ระหว่างจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยให้แก่ข้าราชการพิจารณานำบ้านเอื้ออาทรไปจัดสรรให้แก่ข้าราชการ พนักงานในสังกัด และได้ประสานกับกระทรวงคมนาคมเพื่อให้การสนับสนุนการขยายเส้นทางเดินรถสาธารณะให้เข้าถึงโครงการบ้านเอื้ออาทร ดำเนินการจัดทำแผนกลยุทธ์ ตลาดเชิงรุก เพื่อเพิ่มมูลค่าของโครงการและสร้างแรงจูงใจให้เกิดความต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยให้ได้มากขึ้น รวมทั้งเร่งรัดให้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมเพื่อแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อรับโอนธุรกรรมโครงการบ้านเอื้ออาทรจาก กคช. และให้จัดทำแผนการจัดหาแหล่งเงินสนับสนุนฉุกเฉิน (working capital management) แผนเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรและแผนลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ในกรณีที่ กคช. ไม่สามารถแก้ปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทรอย่างเบ็ดเสร็จได้ในปี 2552 เพื่อเสนอรัฐบาลต่อไป

ในส่วนของมาตรการลดภาระต้นทุนทางการเงิน พม. จะได้หารือกับกระทรวงการคลัง (กค.) เพื่อพิจารณาแนวทางการลดภาระต้นทุนทางการเงินของ กคช. (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้) สำหรับการลงทุนในโครงการบ้านเอื้ออาทร เพื่อเป็นการลดภาระดอกเบี้ยของโครงการและการแก้ไขปัญหาของสถานะทางการเงินแก่ กคช.

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ