คณะรัฐมนตรีอนุมัติและรับทราบการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการดำเนินการและหลักเกณฑ์ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานดำเนินโครงการและแนวทางการปรับปรุงเพิ่มเติมโครงการใหม่ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ดังนี้
(1) ตามนัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 25 วรรคสอง แม้จะกำหนดให้เปลี่ยนแปลงโครงการได้แต่ไม่ได้กล่าวให้ชัดเจนถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานดำเนินโครงการ ซึ่งตามเจตนารมณ์เดิมต้องการจะให้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งโครงการ และหน่วยงานดำเนินโครงการ เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้อาจมีความจำเป็นในด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัยทำให้หน่วยงานที่ได้รับอนุมัติโครงการไม่สามารถดำเนินการเองได้ คณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จึงเห็นควรกำหนดให้ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานดำเนินโครงการระหว่างหน่วยงานภายในกระทรวงและระหว่างกระทรวงสำหรับโครงการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถทำได้
(2) สำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงการและการใช้เงินเหลือจ่ายสำหรับโครงการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถกระทำได้อยู่แล้ว โดยให้เสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้พิจารณาอนุมัติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 ข้อ 25 วรรค 2 อย่างไรก็ตาม โครงการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วให้อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการ ไทยเข้มแข็ง 2555
(3) สำหรับการขอปรับปรุงเพิ่มเติมเป็นโครงการใหม่ที่ไม่อยู่ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จะต้องเป็นโครงการตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานเจ้าของโครงการโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเจ้าสังกัดต้องเสนอโครงการต่อคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 ต่อไป
2. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โครงการศูนย์ 3 วัยสานสายใยรักแห่งครอบครัว ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
3. รับทราบแนวทางการดำเนินงานกรณีหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินกู้ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ไม่สามารถดำเนินการเองได้ต้องมอบหมายให้หน่วยงานอื่นดำเนินการและเบิกเงินกู้แทน ดังนี้
(1) กรณีของกรมชลประทานและสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นกรณีที่หน่วยงานขอรับจัดสรรเงินกู้โดยไม่มีความพร้อมหรือไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้จริง และจะให้หน่วยงานอื่นเข้ามาดำเนินการแทนให้ในบางส่วนจึงเป็นการโอนหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการข้ามกระทรวงหรือข้ามหน่วยงานเจ้าของโครงการ ซึ่งตามนัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 19 วรรคสอง ไม่สามารถดำเนินการได้
(2) กรณีของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการดำเนินโครงการเป็นไปในรูปของ คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (กอ.นตผ.) ซึ่งจะเป็นการบูรณาการโครงการร่วมกันของหลายหน่วยงาน ดังนั้น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงไม่สามารถดำเนินโครงการได้เพียงหน่วยงานเดียว ต้องให้ส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการ ซึ่งในกรณีนี้ กรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่จัดทำระบบการเบิกจ่ายเงิน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 8 ได้เตรียมแนวทางในการเบิกจ่ายเงินกรณีดังกล่าวแล้ว โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเป็นผู้เบิกเงินจากคลัง และมอบอำนาจในการจัดซื้อ จัดจ้าง ตามระเบียบพัสดุฯ ข้อ 9 ให้กับหน่วยดำเนินการ หากไม่ใช่การจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยดำเนินการขอยืมเงินมายังหน่วยงานเจ้าของโครงการ และหน่วยงานเจ้าของโครงการจะจ่ายเงินยืมให้กับหน่วยดำเนินการต่อไป โดยการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวหน่วยงานเจ้าของโครงการยังคงมีหน้าที่ในการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินกู้ รวมทั้งการรายงานผลการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. รับทราบหลักเกณฑ์ข้อกำหนดการใช้จ่ายเงินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ดังนี้
4.1 หลักเกณฑ์ข้อกำหนดการใช้จ่ายเงินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 มีความชัดเจนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งอย่างแท้จริง คณะกรรมการฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การใช้เงินของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในเรื่องเกี่ยวกับการจัดซื้อรถ การเดินทางไปราชการต่างประเทศ และเงินตอบแทนพิเศษ เพื่อเป็นแนวทางในการถือปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1) ในเรื่องการจัดซื้อรถ: โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ไม่ให้มีการจัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งและรถยนต์รับรองในทุกกรณี สำหรับรถยนต์ส่วนกลางให้จัดซื้อได้เฉพาะที่ใช้ในการบริการประชาชนหรือใช้ในหน้าที่เฉพาะในภารกิจของงานตามความจำเป็น โดยประเภทของรถยนต์ส่วนกลางดังกล่าวต้องไม่เกินกว่ารถโดยสารขนาด 12 ที่นั่ง
2) การเดินทางไปราชการต่างประเทศ: โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ไม่ให้มีการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อประชุม สัมมนา หรือศึกษาดูงาน ยกเว้นการเดินทางไปต่างประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับทุนการศึกษาตามวัตถุประสงค์ของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่ได้รับอนุมัติจากมติคณะรัฐมนตรีแล้ว และโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่หน่วยงานมีภารกิจหลักและอำนาจหน้าที่โดยตรงตามกฎหมายจัดตั้งหน่วยงาน ซึ่งมีความจำเป็นและมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับภารกิจงานที่รับผิดชอบโดยตรง โดยต้องกำหนดจำนวนคน ระยะเวลา ให้เหมาะสมตามความจำเป็นและเป็นไปอย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด โดยให้อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีประจำกระทรวงนั้นๆ เป็นผู้อนุมัติการเดินทางเป็นกรณีๆ ไป
3) เงินตอบแทนพิเศษ: การใช้เงินภายใต้โครงการในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง2555 ไม่ให้ใช้เป็นเงินรางวัล หรือเงินค่าตอบแทนพิเศษในลักษณะเดียวกันกับเงินรางวัลแก่ข้าราชการ ข้าราชการท้องถิ่นหรือบุคลากรของภาครัฐ
4.2 หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจน เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 ซึ่งมอบหมายให้คณะกรรมการฯ เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิบัติต่อไป คณะกรรมการฯ จึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติสำหรับโครงการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินงาน การบันทึกข้อมูลและการขออนุมัติจัดสรรเงิน การเบิกจ่ายเงิน การติดตามและรายงานผลการดำเนินงาน สำหรับโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจและเงินอุดหนุนทั่วไป ดังนี้
1) การดำเนินงาน
(1) เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ดำเนินการได้ตามกิจกรรมภายในโครงการที่ได้รับการอนุมัติจัดสรรเงิน โดยมีข้อกำหนดในเรื่องการจัดซื้อรถ การเดินทางไปราชการต่างประเทศ และการจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษเช่นเดียวกับโครงการอื่นภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
(2) เงินอุดหนุนทั่วไป ดำเนินการตามภารกิจอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานภายในวงเงินที่ได้รับการจัดสรรตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีข้อกำหนดในเรื่องการจัดซื้อรถ การเดินทางไปราชการต่างประเทศ และการจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษเช่นเดียวกับโครงการอื่นภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
2) การบันทึกข้อมูลและการขออนุมัติจัดสรรเงิน
(1) เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและดำเนินการเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นที่ได้รับเงินภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยบันทึกข้อมูลเป็นรายการ พื้นที่ และมีการรายงานผลการดำเนินการ
(2) เงินอุดหนุนทั่วไป กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นผู้บันทึกข้อมูลเบื้องต้นในระดับจังหวัด (ต่อไปจะให้บันทึกข้อมูลลงรายอำเภอตำบลที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งได้รับจัดสรร) และต้องมีการรวบรวมข้อมูลการจัดสรรเงินและการใช้จ่ายเงิน โดย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจะขอรับจัดสรรจากสำนักงบประมาณในวงเงิน 23,000 ล้านบาท
3) การเบิกจ่ายเงิน
(1) เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ เมื่อกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับอนุมัติจัดสรรเงินแล้ว ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นที่ได้รับอนุมัติจัดสรรเงินในโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
(2) เงินอุดหนุนทั่วไป เมื่อกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับอนุมัติจัดสรรเงินแล้ว ให้จัดทำแผนการใช้จ่ายเงินให้แก่กรมบัญชีกลางผ่านสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด เพื่อบันทึกข้อมูลแผนการดำเนินงานเข้าสู่ระบบ GFMIS โดยสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดจะกลั่นกรองพิจารณาความเหมาะสมของการใช้จ่ายเงินในรายการต่างๆ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 ก่อนบันทึกข้อมูล
4) การติดตามและรายงานผลการดำเนินงาน
(1) เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินการติดตามและรายงานผลการดำเนินงานตามแบบฟอร์มที่กระทรวงการคลังกำหนด
(2) เงินอุดหนุนทั่วไป ให้สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดดำเนินการติดตามและรายงานผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามแบบฟอร์มที่กระทรวงการคลังกำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 --จบ--