คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมข้าวสารแบบเสนอส่วนต่างราคา (Basis) ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2552 แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 44,137.889 ตัน และข้าวขาว 5 % ปริมาณ 299,381.478 ตัน โดยมีผู้ยื่นซองประมูล 33 ราย ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 เสนอส่วนต่างราคาสูงสุด +0.14 ถึงต่ำสุด — 4.25 บาท/กก. จากราคาซื้อขายล่วงหน้า และข้าวขาว 5% เสนอส่วนต่างราคาสูงสุด+0.20 ถึงต่ำสุด — 3.00 บาท/กก. จากราคาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสารได้มีมติเห็นชอบให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จำหน่ายข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 21,504.813 ตัน ที่มีการเสนอส่วนต่างราคาสูงสุด + 0.14 ถึงต่ำสุด — 0.40 บาท/กก. จากราคาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นการเสนอส่วนต่างราคาที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อตลาดโดยรวม โดยให้ อคส.และผู้ชนะประมูลเข้าทำการซื้อขายล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ตามเงื่อนไขที่กำหนด สำหรับข้าวขาว 5% ให้ชะลอการระบายไว้ก่อนเพื่อดูสถานการณ์ เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปีเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น และเป็นข้าวใหม่ซึ่งมีความชื้นสูงทำให้แนวโน้มราคาข้าวในประเทศลดต่ำลง ขณะที่ความต้องการซื้อข้าวจากตลาดต่างประเทศยังไม่ชัดเจน
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (11 สิงหาคม 2552) กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลโดยใช้กลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ดังนี้
1. จากการที่ อคส. ได้ขายข้อตกลงล่วงหน้าในตลาด AFET ตามเงื่อนไขที่กำหนดปรากฏว่าเดือนส่งมอบตุลาคม 2552 จำนวน 15,733 ข้อตกลง (ปริมาณรวม 237,087.962 ตัน) ครบถ้วนแล้ว และอยู่ระหว่างทยอยส่งมอบข้าวให้ผู้ชนะประมูล ณ คลังสินค้าของ อคส. และอ.ต.ก.
2. อคส. ได้เปิดประมูลข้าวสารแบบเสนอส่วนต่างราคา (Basis) ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2552 ปริมาณ 343,519.367 ตัน มีผู้ยื่นซองจำนวน 33 ราย ซึ่งปรากฏผลการประมูล ดังนี้
2.1 ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 44,137.889 ตัน เสนอส่วนต่างราคาสูงสุด +0.14 ถึงต่ำสุด — 4.25 บาท/กก. จากราคาซื้อขายล่วงหน้า
2.2 ข้าวขาว 5 % ปริมาณ 299,381.478 ตัน เสนอส่วนต่างราคาสูงสุด+0.20 ถึงต่ำสุด — 3.00 บาท/กก. โดยส่วนต่างราคาดีที่สุดอยู่ระหว่าง + 0.20 ถึง 1.48 บาท/กก. จากราคาซื้อขายล่วงหน้า
3. คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสารได้มีมติเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2552 เห็นชอบให้ อคส. และอ.ต.ก. จำหน่ายข้าวสารที่มีการเสนอส่วนต่างราคาที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อตลาดโดยรวม ตามผลการพิจารณาของคณะทำงานจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลในตลาด AFET โดยพิจารณาจากสถานการณ์ข้าว ภาวการณ์ตลาดในปัจจุบันแนวโน้มราคาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐบาล และภาวะการแข่งขันในการประมูลข้าวแต่ละส่วน รวมทั้งความต้องการข้าวที่สะท้อนมาจากการเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ ที่มีปริมาณความต้องการสูงกว่าปริมาณข้าวที่มีอยู่จริงถึง 6 เท่า (เปิดประมูลขาย จำนวน 343,519.368 ตัน มีผู้สนใจเสนอซื้อ 33 ราย จำนวน 2,142,072.464 ตัน) ทั้งนี้ อคส. และผู้ชนะประมูลต้องเข้าทำการซื้อขายข้อตกลงล่วงหน้าในตลาด AFET ตามเงื่อนไขที่กำหนด
4. ผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลด้วยวิธีการประมูลแบบเสนอส่วนต่างราคา (Basis) รวม 4 ครั้ง ปริมาณรวมทั้งสิ้น 684,776.148 ตัน แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 321,467.402 ตัน และข้าวขาว 5% ปริมาณ 363,308.746 ตัน และมีข้าวสารคงเหลือ 322,014.555 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 22,633.076 ตัน และข้าวขาว 5% ปริมาณ 299,381.479 ตัน ให้เปิดประมูลใหม่ในสถานการณ์ที่เหมาะสมต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 ธันวาคม 2552 --จบ--