คณะรัฐมนตรีรับทราบการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว (รอบที่ 1) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ข้อเท็จจริง
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า
1. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดทำแผนการทำสัญญาโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2552/53 ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 มีเกษตรกรขึ้นทะเบียน จำนวน 3,303,391 ราย (รวมภาคใต้) ธ.ก.ส.ได้รับข้อมูลเกษตรกรที่ผ่านการทำประชาคมแล้ว จำนวน 3,126,151 ราย ทำสัญญาแล้ว จำนวน 1,944,188 ราย คงเหลือจำนวน 1,181,963 ราย ซึ่ง ธ.ก.ส.จะเร่งรัดการทำสัญญาให้เกษตรกรที่คงเหลือดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 6 ธันวาคม 2552 โดยวันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2552 จัดทำสัญญา จำนวน 520,000 ราย วันที่ 30 พฤศจิกายน-6 ธันวาคม 2552 จำนวน 661,963 ราย ส่วนวันที่ 7-15 ธันวาคม 2552 จะเป็นการเก็บตกผู้ที่ยังไม่ได้ทำสัญญาตามแผนการที่วางไว้
2. กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำคู่มือการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/53 (รอบที่ 1) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติและเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบด้วย
(1) ระยะเวลาดำเนินการ การขึ้นทะเบียนเกษตรกร การจัดประชุมประชาคม การออกหนังสือรับรองให้เกษตรกร การจัดทำสัญญาประกันรายได้ และระยะเวลาใช้สิทธิประกันรายได้
(2) ขั้นตอนการดำเนินการ การขึ้นทะเบียนเกษตรกร/การขอหนังสือรับรองเกษตรกร/และการทำสัญญาประกันรายได้
(3) การผ่อนผันการออกหนังสือรับรองเกษตรกร โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ดำเนินการ 1) ผ่อนผันการออกหนังสือรับรองข้าวอายุสั้น (ต่ำกว่า 100 วัน) สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้วเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี (รอบที่ 1) ปีการผลิต 2552/53 ได้เฉพาะครั้งนี้เท่านั้น โดยใช้เกณฑ์ราคาประกันและเกณฑ์กลางอ้างอิงเช่นเดียวกับข้าวเปลือกเจ้าที่รัฐบาลได้กำหนดไว้แล้ว และ 2) จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเฉพาะ เพื่อตรวจสอบเอกสารการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเกี่ยวกับพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรเพาะปลูกและแก้ไขให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงของพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรได้ทำการเพาะปลูกจริง และดำเนินการสำรวจเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ตกสำรวจการเข้าร่วมโครงการประกันรายได้และให้ใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ได้ หากเกษตรกรที่ตกสำรวจยังมีข้าวเปลือกอยู่ในมือ (มีข้าวเปลือกอยู่ในยุ้งฉางของตนเอง หรือมีข้าวอยู่ในแปลงของตนเอง) และเป็นของตนเองอย่างแท้จริง
(4) การใช้สิทธิในการประกันรายได้ เมื่อเกษตรกรมาทำสัญญาประกันรายได้กับ ธ.ก.ส.และกำหนดวันที่ขอใช้สิทธิประกันรายได้ไปแล้ว แต่ยังไม่ถึงกำหนดวันที่จะใช้สิทธิตามสัญญา หากเกษตรกรประสงค์จะ ขอเปลี่ยนแปลงวันที่ขอใช้สิทธิให้ ธ.ก.ส.เปลี่ยนแปลงวันที่ขอใช้สิทธิได้นับแต่วันที่ขอใช้สิทธิ์ แต่ไม่สามารถย้อนหลังได้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินระยะเวลาสิ้นสุดการขอใช้สิทธิที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กำหนด (ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 ยกเว้นภาคใต้ภายใน 31 พฤษภาคม 2553)
(5) การผ่อนผันเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการ โดย 1) มอบหมายให้ ธ.ก.ส.ตรวจสอบว่าเกษตรกรที่ได้จำหน่ายข้าวเปลือกไปก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2552 และได้รับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและทำประชาคมแล้ว หากเกษตรกรดังกล่าวไม่ได้ใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ให้สามารถใช้สิทธิตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2552/53 ได้ และ 2) เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรหลังวันที่ 31 ตุลาคม 2552 กับเกษตรอำเภอ (กรมส่งเสริมการเกษตร) และทำประชาคมแล้ว โดยยังมีข้าวเปลือกในมือในวันที่ทำประชาคมให้สามารถเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ ได้
(6) การจ่ายเงิน ธ.ก.ส.จะจ่ายเงินชดเชยรายได้ตามเกณฑ์กลางอ้างอิงให้แก่เกษตรกรในวันที่เกษตรกรใช้สิทธิประกันรายได้ ตามอัตราที่คณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงกำหนด โดยให้ระยะเวลา ธ.ก.ส.ตรวจสอบก่อนจ่ายเงินได้ไม่เกิน 15 วัน และให้สิ้นสุดการใช้สิทธิในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ยกเว้นภาคใต้สิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2553
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 ธันวาคม 2552 --จบ--