คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2549 เรื่อง แผนการปรับโครงสร้างผลไม้ภาคตะวันออกและปรับโครงสร้างการผลิตลำไย ปี 2549 ในข้อ 2 จาก “การดำเนินการตามข้อ 1 เป็นการที่ภาครัฐได้ลงทุนร่วมกับภาคเอกชน โดยการสร้างโรงงานในที่ดินของเอกชน จึงจะต้องจัดทำข้อตกลงและรายละเอียดของความรับผิดชอบและภาระผูกพันต่าง ๆ ที่มีระหว่างกันให้ชัดเจนครบถ้วน ถูกต้อง ตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและเกิดความเป็นธรรม เช่น การมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการ แผนการดำเนินการ การบริหารจัดการทรัพย์สิน การบำรุงรักษา และการแบ่งปันผลประโยชน์ เป็นต้น” เป็น “การดำเนินการตามข้อ 1 เป็นการที่ภาครัฐสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สถาบันเกษตรกร โดยการสร้างโรงงานบนที่ดินของสถาบันเกษตรกร ทั้งนี้ สถาบันเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนจะต้องจัดทำรายละเอียดแผนการดำเนินการ การบริหารจัดการทรัพย์สิน การบำรุงรักษา รวมทั้งการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคายุติธรรม และรายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ทราบเป็นระยะ ๆ “ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ทั้งนี้ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแลและติดตามการดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างผลไม้ฯ ดังกล่าวให้ได้ผลเป็นรูปธรรม และตรงตามเจตนารมณ์ของโครงการที่มุ่งให้เป็นโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาการผลิตไม้ผลของเกษตรกรอย่างแท้จริง และให้รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ ด้วย
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ได้ประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ กรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอทบทวน โดยมีเหตุผลดังนี้
1. ภาครัฐไม่สามารถร่วมลงทุนกับภาคเอกชนได้ตามกฎหมาย และที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานของรัฐเข้าไปร่วมลงทุนกับสถาบันเกษตรกร
2. ที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สถาบันเกษตรกรในลักษณะเงินอุดหนุนจ่ายขาดในเรื่องปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งแก่สถาบันเกษตรกร เช่น โรงสี ไซโล โรงรมยาง และเครื่องอบลดความชื้น เป็นต้น คณะรัฐมนตรีเคยมีมติเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2546 อนุมัติงบประมาณปี 2547 จากงบกลาง รายการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืน จำนวน 314.25 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างตลาดกลางสินค้าเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ให้แก่ชุมชนสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด โครงการที่กล่าวมาทั้งหมดเป็น การอนุมัติเงินงบประมาณจ่ายขาดให้แก่สถาบันเกษตรกร โดยสถาบันเกษตรกรเป็นผู้จัดหาพื้นที่และรับผิดชอบในการบริหารจัดการทรัพย์สิน
3. สถาบันเกษตรกรเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายที่ได้จดทะเบียนกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และ ได้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 10 ราย จากที่สมัครขอรับการคัดเลือกจำนวนกว่า 100 ราย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณาจากศักยภาพทั้งด้านการบริหารจัดการองค์กรการตลาด และการเงิน รวมถึงที่ดินสำหรับการดำเนินงาน ก่อสร้าง ซึ่งสถาบันเกษตรกรได้จัดทำแผนการดำเนินการ การบริหารจัดการทรัพย์สิน การบำรุงรักษา รวมทั้งการรับ ซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่เป็นธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาราคา โดยสถาบันเกษตรกรจะได้มีการทำสัญญาข้อตกลงกับ กรมส่งเสริมสหกรณ์ต่อไป นอกจากนี้จะมีการติดตามผลการดำเนินงานของสถาบันเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง และรายงานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะรัฐมนตรีทราบด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 กรกฎาคม 2549--จบ--
ทั้งนี้ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแลและติดตามการดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างผลไม้ฯ ดังกล่าวให้ได้ผลเป็นรูปธรรม และตรงตามเจตนารมณ์ของโครงการที่มุ่งให้เป็นโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาการผลิตไม้ผลของเกษตรกรอย่างแท้จริง และให้รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ ด้วย
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ได้ประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ กรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอทบทวน โดยมีเหตุผลดังนี้
1. ภาครัฐไม่สามารถร่วมลงทุนกับภาคเอกชนได้ตามกฎหมาย และที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานของรัฐเข้าไปร่วมลงทุนกับสถาบันเกษตรกร
2. ที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สถาบันเกษตรกรในลักษณะเงินอุดหนุนจ่ายขาดในเรื่องปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งแก่สถาบันเกษตรกร เช่น โรงสี ไซโล โรงรมยาง และเครื่องอบลดความชื้น เป็นต้น คณะรัฐมนตรีเคยมีมติเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2546 อนุมัติงบประมาณปี 2547 จากงบกลาง รายการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืน จำนวน 314.25 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างตลาดกลางสินค้าเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ให้แก่ชุมชนสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด โครงการที่กล่าวมาทั้งหมดเป็น การอนุมัติเงินงบประมาณจ่ายขาดให้แก่สถาบันเกษตรกร โดยสถาบันเกษตรกรเป็นผู้จัดหาพื้นที่และรับผิดชอบในการบริหารจัดการทรัพย์สิน
3. สถาบันเกษตรกรเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายที่ได้จดทะเบียนกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และ ได้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 10 ราย จากที่สมัครขอรับการคัดเลือกจำนวนกว่า 100 ราย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณาจากศักยภาพทั้งด้านการบริหารจัดการองค์กรการตลาด และการเงิน รวมถึงที่ดินสำหรับการดำเนินงาน ก่อสร้าง ซึ่งสถาบันเกษตรกรได้จัดทำแผนการดำเนินการ การบริหารจัดการทรัพย์สิน การบำรุงรักษา รวมทั้งการรับ ซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่เป็นธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาราคา โดยสถาบันเกษตรกรจะได้มีการทำสัญญาข้อตกลงกับ กรมส่งเสริมสหกรณ์ต่อไป นอกจากนี้จะมีการติดตามผลการดำเนินงานของสถาบันเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง และรายงานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะรัฐมนตรีทราบด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 กรกฎาคม 2549--จบ--