คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. รับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรแนวทางการแก้ปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลใบรับรองเกษตรกรระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และรายงานผลการติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ของคณะอนุกรรมการติดตามฯ รวมทั้งแนวทางการประเมินผลการดำเนินงานในกรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง
2. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการทำสัญญาของข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังออกไปให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2552 และการใช้สิทธิในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในภาคใต้สามารถใช้สิทธิได้หลังการเก็บเกี่ยว โดยมีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1) ความก้าวหน้าของการดำเนินงาน ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2552
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ข้าว จำนวนราย ร้อยละของ จำนวนราย ร้อยละของ จำนวนราย ร้อยละของ ขึ้นทะเบียน ขึ้นทะเบียน ขึ้นทะเบียน 1) การขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืช 400,355 106.22* 447,306 116.30* 3,336,593 89.81* (เพิ่มขึ้นจาก 27 พ.ย.52) (7,245) (1.85) (8,829) (2.01) (27,061) (0.82) 2) ผ่านการรับรองโดยประชาคม 398,677 99.59 444,168 99.30 3,226,104 96.69 (เพิ่มขึ้นจาก 27 พ.ย.52) (9,924) (2.55) (13,363) (3.10) (23,854) (0.75) 3) ธ.ก.ส. รับทะเบียนเกษตรกร 398,218 99.47 443,242 99.09 3,178,572 95.26 (เพิ่มขึ้นจาก 27 พ.ย.52) (10,918) (2.82) (14,411) (3.36) (50,249) (1.61) 4) ธ.ก.ส. ทำสัญญา 379,410 94.77 387,372 86.60 2,514,600 75.36 (เพิ่มขึ้นจาก 27 พ.ย.52) (2,848) (0.76) (15,803) (4.25) (363,069) (16.88) 5) การใช้สิทธิของเกษตรกร 317,155 79.22 36,193 8.09 353,133 10.58 (เพิ่มขึ้นจาก 27 พ.ย.52) (68,039) (27.31) (28,296) (358.31) (295,218) (509.74)
หมายเหตุ * หมายถึง ร้อยละของเป้าหมาย
สำหรับกรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการทำสัญญาประกันรายได้แล้ว ร้อยละ 94.77 และ 86.60 ตามลำดับ ซึ่งตามหลักเกณฑ์และวิธีการของโครงการ การทำสัญญาจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 โดยยังมีผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ยังไม่ได้ใบรับรองเกษตรกร 3,138 ราย และยังไม่ได้ทำสัญญากับ ธ.ก.ส. 59,934 ราย ส่วนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังไม่ได้รับใบรับรองเกษตรกร 1,678 ราย และและยังไม่ได้ทำสัญญากับ ธ.ก.ส. 20,945 ราย
2) การแก้ไขปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลใบรับรองเกษตรกร
กรมส่งเสริมการเกษตร และ ธ.ก.ส. ได้ตกลงร่วมกันในการแก้ปัญหาความผิดพลาดของข้อมูล ใบรับรองเกษตรกร โดยแยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีใบรับรองเกษตรกรมีข้อมูลผิดพลาดที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เช่น การสะกดชื่อหรือนามสกุลผิด จะมอบให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขข้อมูลดังกล่าว ส่วนข้อผิดพลาดที่มีสาระสำคัญ อาทิ จำนวนพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรคาดว่ามีไม่เกินร้อยละ 5 ของใบรับรองทั้งหมด ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรจะแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวภายใน 2 สัปดาห์ และส่งให้ ธ.ก.ส. เป็นระยะ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรที่ได้ทำสัญญาและขอใช้สิทธิชดเชยแล้ว
3) การติดตามประเมินผลการดำเนินงานโดยคณะอนุกรรมการติดตามฯ
คณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร จะเริ่มประเมินผลการดำเนินงานโครงการฯ ในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังในเดือนธันวาคม 2552 โดยจะทำการประเมินทั้งในภาพรวมและระดับจังหวัด ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้ขอให้ ธ.ก.ส. ส่งข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้สิทธิชดเชย และการรับเงินชดเชย ให้คณะอนุกรรมการฯ นำไปประกอบการติดตามและประเมินผล
4) การขยายระยะเวลาการทำสัญญาของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง กับ ธ.ก.ส.
เนื่องจาก ธ.ก.ส. ได้รับข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตรยังไม่ครบถ้วนและพบความผิดพลาดของข้อมูลในใบรับรอง ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ (1) การกรอกข้อมูลลงระบบคอมพิวเตอร์ผิดพลาดจากการเร่งรัดส่งมอบให้ทันภายในกำหนดระยะเวลาอันสั้น ทำให้ใบรับรองที่ ธ.ก.ส. รับมาตรวจสอบ ส่วนหนึ่งต้องส่งกลับให้กรมส่งเสริมการเกษตรยืนยันความถูกต้องทั้งกรณีข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (2) การผ่อนผันการออกหนังสือรับรองผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอายุสั้นเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี (รอบที่1) ด้วยเหตุผล 2 ประการดังกล่าว เพื่อสิทธิประโยชน์และบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และเพื่อให้การทำสัญญามีความถูกต้องสมบูรณ์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะไม่กระทบเกษตรกรส่วนใหญ่ของโครงการ คณะกรรมการประสานฯ จึงเห็นควรให้ขยายระยะเวลาการทำสัญญาของข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังออกไปให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2552
5) แนวทางการใช้สิทธิในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวภาคใต้
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 เห็นชอบให้เกษตรกรที่ทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรกับ ธ.ก.ส. ขอใช้สิทธิประกันรายได้ได้ทันที ซึ่งคู่มือการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/53(รอบที่1) เสนอโดยกระทรวงพาณิชย์ และคณะรัฐมนตรีรับทราบเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552 ระบุระยะเวลาใช้สิทธิประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ — 31 พฤษภาคม 2553 ซึ่งคณะกรรมการประสานฯ เห็นควรให้การใช้สิทธิในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในภาคใต้สามารถใช้สิทธิได้หลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นหลักการของโครงการประกันรายได้ฯ ซึ่งจะต่างจากการใช้สิทธิในโครงการประกันรายได้เกษตรกรในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ที่ผ่านมาได้มีการอนุโลมเนื่องจากเกิดความล่าช้าในการดำเนินการในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเกษตรกร การทำประชาคม และการออกใบรับรอง เนื่องจากเป็นการดำเนินการเป็นครั้งแรก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 ธันวาคม 2552 --จบ--