แท็ก
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
องค์การบริหารส่วนตำบล
จังหวัดกาญจนบุรี
ภาษีโรงเรือน
คณะรัฐมนตรี
ทองผาภูมิ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินปี 2547 ของเขื่อนวชิราลงกรณ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ของบริษัท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (กฟผ.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าขนุน (อบต.ท่าขนุน) ประเมินไว้จากค่ารายปี 34,107,583.28 บาท และค่าภาษี 4,263,447.91 บาท เป็นค่ารายปี 23,381,280 บาท และค่าภาษี 2,922,660 บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
กระทรวงพลังงานชี้แจงว่า ได้เคยนำเสนอเรื่องขออนุมัติลดหย่อนค่าภาษีฯ ของเขื่อนวชิราลงกรณ ปี 2548 โดยใช้แนวทางตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติแล้วเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2548 อนุมัติให้ อบต.ท่าขนุนได้ลดหย่อนค่ารายปี และภาษีโรงเรือนฯ ประจำปี 2548 ของเขื่อนวชิราลงกรณจากค่ารายปี 37,403,489.20 บาท ค่าภาษีปี 4,675,573.28 บาท เป็นค่ารายปี 23,606,481.48 บาท ค่าภาษี 3,031,367.30 บาท
โดยภาษีที่แตกต่างกันมาจากวิธีการคำนวณที่ต่างกัน คือ บมจ.กฟผ. เห็นว่า ควรนำพื้นที่สันเขื่อนมาคำนวณภาษี แต่ อบต. ท่าขนุนเห็นว่าควรคำนวณจากพื้นที่ฐานเขื่อน ซึ่งประเด็นนี้กระทรวงมหาดไทยได้เคยเสนอความเห็นต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรณีกระทรวงพลังงานได้เสนอเรื่องขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ปี พ.ศ. 2547 ของเขื่อนวชิราลงกรณ มีสาระสำคัญว่า “การคำนวณค่าภาษีฯ ในรายการเขื่อนนั้น เนื่องจากเขื่อนมีการใช้ประโยชน์ในลักษณะอเนกประสงค์ในด้านอื่น ๆ เช่น การป้องกันน้ำท่วม การชลประทาน การท่องเที่ยว และการคำนวณภาษีฯ ถ้าคิดจากฐานเขื่อนจะทำให้ กฟผ. ต้องรับภาระค่าภาษีฯ เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้า จึงเห็นควรให้คิดค่าภาษีฯ เฉพาะส่วนที่เป็นพื้นที่สันเขื่อนตามราคาค่าเช่ามาตรฐานกลางเฉลี่ยเป็นตารางเมตรต่อเดือน” ซึ่ง กฟผ. ได้คำนวณพื้นที่สันเขื่อนได้เป็น 10 X 1,019 = 10,190 ตารางเมตร และนำมาคำนวณค่าภาษีทั้งในปี 2547 และ ปี 2548 ด้วย
กระทรวงพลังงานได้พิจารณาความเหมาะสมของการคิดค่าภาษีฯ ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้กำหนดว่า “การกำหนดค่ารายปีและค่าภาษีฯ จะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น ดรรชนีราคาผู้บริโภคของทางราชการ รวมถึงภาวะทางเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงภาระภาษีของราษฎรเป็นสำคัญ” และการที่ กฟผ. ต้องรับภาระภาษีที่สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมามากเช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้า และจะมีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระทรวงพลังงานจึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 24 มกราคม 2549--จบ--
กระทรวงพลังงานชี้แจงว่า ได้เคยนำเสนอเรื่องขออนุมัติลดหย่อนค่าภาษีฯ ของเขื่อนวชิราลงกรณ ปี 2548 โดยใช้แนวทางตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติแล้วเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2548 อนุมัติให้ อบต.ท่าขนุนได้ลดหย่อนค่ารายปี และภาษีโรงเรือนฯ ประจำปี 2548 ของเขื่อนวชิราลงกรณจากค่ารายปี 37,403,489.20 บาท ค่าภาษีปี 4,675,573.28 บาท เป็นค่ารายปี 23,606,481.48 บาท ค่าภาษี 3,031,367.30 บาท
โดยภาษีที่แตกต่างกันมาจากวิธีการคำนวณที่ต่างกัน คือ บมจ.กฟผ. เห็นว่า ควรนำพื้นที่สันเขื่อนมาคำนวณภาษี แต่ อบต. ท่าขนุนเห็นว่าควรคำนวณจากพื้นที่ฐานเขื่อน ซึ่งประเด็นนี้กระทรวงมหาดไทยได้เคยเสนอความเห็นต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรณีกระทรวงพลังงานได้เสนอเรื่องขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ปี พ.ศ. 2547 ของเขื่อนวชิราลงกรณ มีสาระสำคัญว่า “การคำนวณค่าภาษีฯ ในรายการเขื่อนนั้น เนื่องจากเขื่อนมีการใช้ประโยชน์ในลักษณะอเนกประสงค์ในด้านอื่น ๆ เช่น การป้องกันน้ำท่วม การชลประทาน การท่องเที่ยว และการคำนวณภาษีฯ ถ้าคิดจากฐานเขื่อนจะทำให้ กฟผ. ต้องรับภาระค่าภาษีฯ เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้า จึงเห็นควรให้คิดค่าภาษีฯ เฉพาะส่วนที่เป็นพื้นที่สันเขื่อนตามราคาค่าเช่ามาตรฐานกลางเฉลี่ยเป็นตารางเมตรต่อเดือน” ซึ่ง กฟผ. ได้คำนวณพื้นที่สันเขื่อนได้เป็น 10 X 1,019 = 10,190 ตารางเมตร และนำมาคำนวณค่าภาษีทั้งในปี 2547 และ ปี 2548 ด้วย
กระทรวงพลังงานได้พิจารณาความเหมาะสมของการคิดค่าภาษีฯ ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้กำหนดว่า “การกำหนดค่ารายปีและค่าภาษีฯ จะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น ดรรชนีราคาผู้บริโภคของทางราชการ รวมถึงภาวะทางเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงภาระภาษีของราษฎรเป็นสำคัญ” และการที่ กฟผ. ต้องรับภาระภาษีที่สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมามากเช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้า และจะมีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระทรวงพลังงานจึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 24 มกราคม 2549--จบ--