คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ระงับการแทรกแซงการรับซื้อข้าวเปลือกในช่วงนี้ เฉพาะชนิดข้าวที่ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกันรายได้ เพื่อให้การซื้อขายข้าวเปลือกเป็นไปตามกลไกตลาด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ข้อเท็จจริง
1. ผลการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/53 ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2552 มีโรงสีเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกแล้ว 53 โรงสี โดยมีผลรับซื้อข้าวเปลือกเจ้า 5% ปริมาณ 797.543 ตัน เกษตรกร จำนวน 121 ราย ที่จังหวัดสุโขทัยเพียงจังหวัดเดียว (รับซื้อระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน — 8 ธันวาคม 2552) เนื่องจากขณะนี้ความต้องการข้าวในตลาดโลกมีมากขึ้น ประกอบกับผลผลิตข้าวโลกมีปริมาณลดลงจากปีที่ผ่านมาจากผลกระทบภัยแล้ง ส่งผลให้ภาวะราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าเกณฑ์กลางอ้างอิง และราคาประกันรายได้
2. การประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อใช้จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างในระหว่างวันที่ 16-31 ธันวาคม 2552 และใช้เป็นเกณฑ์ในการรับซื้อข้าวเปลือกตามโครงการแทรกแซงตลาดฯ ปรากฏว่าเกณฑ์กลางอ้างอิงที่กำหนดสูงกว่าราคาประกันรายได้ข้าวเปลือกเกือบทุกชนิด มีเพียงข้าวเปลือกหอมมะลิเท่านั้น ที่เกณฑ์กลางอ้างอิงยังต่ำกว่าราคาประกันรายได้
3. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 กรณีเกษตรกรที่ไม่สามารถทำสัญญาประกันรายได้กับ ธ.ก.ส. ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2552 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำสัญญา ให้ขยายเวลาการทำสัญญาออกไปถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2552 และอนุโลมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ทำสัญญากับ ธ.ก.ส. ในช่วงวันที่ 16-30 ธันวาคม 2552 สามารถใช้สิทธิรับเงินชดเชยจากราคาอ้างอิงตามประกาศคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ ในช่วงวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 ธันวาคม 2552 --จบ--