คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำกับดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยให้รับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วยแล้วดำเนินการต่อไปได้
โดยร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำกับดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... เป็นการกำกับดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคธุรกิจ โดยเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชี้แจงว่า ธุรกิจบริการเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นธุรกิจบริการที่มีรูปแบบซับซ้อนหลากหลาย ทั้งยังใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ให้บริการก็มิได้มีแต่เพียงสถาบันการเงินเท่านั้นแต่ยังรวมถึงผู้ให้บริการที่มิได้มีกฎหมายฉบับใดกำกับดูแลด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์ ความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณชน ประกอบกับเพื่อเป็นการบูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นฉบับเดียวกัน อันจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และเป็นมาตรการสำคัญประการหนึ่งในการส่งเสริมการใช้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคธุรกิจหรือการให้บริการภาครัฐดังกล่าว จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำกับดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 พฤศจิกายน 2549--จบ--
โดยร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำกับดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... เป็นการกำกับดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคธุรกิจ โดยเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชี้แจงว่า ธุรกิจบริการเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นธุรกิจบริการที่มีรูปแบบซับซ้อนหลากหลาย ทั้งยังใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ให้บริการก็มิได้มีแต่เพียงสถาบันการเงินเท่านั้นแต่ยังรวมถึงผู้ให้บริการที่มิได้มีกฎหมายฉบับใดกำกับดูแลด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์ ความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณชน ประกอบกับเพื่อเป็นการบูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นฉบับเดียวกัน อันจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และเป็นมาตรการสำคัญประการหนึ่งในการส่งเสริมการใช้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคธุรกิจหรือการให้บริการภาครัฐดังกล่าว จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำกับดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 พฤศจิกายน 2549--จบ--