เรื่อง ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ
เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550 พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ข้อเท็จจริง
กระทรวงการคลังเสนอว่า
1. กระทรวงการคลังได้ออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550 ขึ้น ซึ่งมีสาระสำคัญในการให้อำนาจกระทรวงการคลังสั่งจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ของกระทรวงการคลังแทนการกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประหยัดดอกเบี้ย
2. ในปีงบประมาณ 2552 กระทรวงการคลังมีความจำเป็นต้องดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ จำนวนรวม 186,890.72 ล้านบาท จึงจะดำเนินการโดยสั่งจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ แต่มีประเด็นปัญหาข้อกฎหมายเนื่องจากอำนาจในการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 14 และมาตรา 24 พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไม่ได้กำหนดให้ใช้เงินทดรองราชการเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะได้ กระทรวงการคลังจึงได้มีหนังสือหารือประเด็นดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
3. คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 12) ได้วินิจฉัยประเด็นดังกล่าวและมีความเห็นว่า เงินทดรองราชการตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 เป็นเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายและอนุญาตให้ส่วนราชการมีไว้ตามจำนวนที่เห็นสมควร เพื่อทดรองจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ พ.ศ. 2547 ข้อ 14 ซึ่งได้กำหนดให้ทดรองจ่ายได้เฉพาะเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดไว้เท่านั้น
นอกจากนี้ ในการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังต้องดำเนินการตามกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะเท่านั้น ซึ่งมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะฯ ได้กำหนดให้กระทรวงการคลังปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะโดยการกู้เงินรายใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม แปลงหนี้ชำระหนี้ก่อนถึงกำหนดชำระ ขยายหรือย่นระยะเวลาชำระหนี้ ต่ออายุ ซื้อคืน หรือไถ่ถอนตราสารหนี้ของรัฐบาล หรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะตามที่กำหนดในกฎกระทรวงและหากการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวดำเนินการโดยการกู้เงิน การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 24 ด้วย กล่าวคือ ต้องเป็นการประหยัด ลดความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยน หรือกระจายภาระการชำระหนี้ และกู้เงินได้ไม่เกินหนี้ที่กระทรวงการคลังชำระหรือภาระหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน
ในการนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่า กระทรวงการคลังไม่อาจอาศัยอำนาจตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550 ดำเนินการสั่งจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะได้
4. เพื่อให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาและเพื่อเป็นหลักปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป จึงเห็นควรยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550
สาระสำคัญของร่างระเบียบฯ เป็นการยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2550 ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป (ร่างข้อ 3)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 มกราคม 2553--จบ--