เรื่อง การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1903 (ค.ศ. 2009) เกี่ยวกับการคว่ำบาตรไลบีเรีย
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council : UNSC) ที่ 1903 (ค.ศ. 2009) เกี่ยวกับการคว่ำบาตรไลบีเรียและเพื่อมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงการคลัง (กค.) กระทรวงคมนาคม (คค.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ โดยให้เป็นไปตามขอบเขตของกฎหมายภายในของไทย รวมทั้งแจ้งผลการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงการต่างประเทศทราบเพื่อรายงานให้สหประชาชาติทราบต่อไปด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้รับรองข้อมติ UNSC ที่ 1903 (ค.ศ. 2009) เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2552 เกี่ยวกับการคว่ำบาตรไลบีเรียเพิ่มเติม สรุปสาระสำคัญดังนี้
1. ข้อ 1 ขยายมาตรการห้ามการเดินทางตามข้อ 4 ของข้อมติ UNSC ที่ 1521 (ค.ศ. 2003) เป็นระยะเวลาอีก 12 เดือนนับจากวันที่ 17 ธันวาคม 2552
2. ข้อ 3 และ 4 ให้รัฐสมาชิกสหประชาชาติดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องปรามการจัดหา ขาย หรือโอน ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จากดินแดนหรือโดยพลเมืองของตน หรือโดยใช้เรือหรืออากาศยานที่ชักธงประเทศตน อาวุธและยุทโธปกรณ์และการให้ความช่วยเหลือ คำปรึกษา หรือการฝึกฝนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางทหารอันรวมถึงการให้เงินทุนและความช่วยเหลือทางการเงินแก่องค์กรหรือปัจเจกชนที่ไม่ได้เป็นส่วนราชการที่ปฏิบัติการในดินแดนของไลบีเรีย โดยยกเว้นการจัดหา ขาย หรือโอนและการให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไลบีเรียเป็นระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันที่ 17 ธันวาคม 2552
3. ข้อ 6 ให้รัฐสมาชิกสหประชาชาติแจ้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่จัดตั้งขึ้นตามข้อมติ UNSC ที่ 1521 (ค.ศ. 2003) เป็นการล่วงหน้า หากมีการจัดหาและส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่รัฐบาลไลบีเรีย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ คำปรึกษา และการฝึกฝนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางทหารแก่รัฐบาลไลบีเรีย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มกราคม 2553--จบ--