ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความต้องการจากรัฐบาลในปี 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 27, 2010 16:08 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความต้องการจากรัฐบาลในปี 2553 ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ

ข้อเท็จจริง

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้จัดทำข้อมูลสถิติการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความต้องการจากรัฐบาลในปี 2553 โดยสอบถามประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ มีประชาชนถูกเลือกเป็นตัวอย่าง 3,900 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 1-12 พฤศจิกายน 2552 โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ ภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้นำผลการสำรวจไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผน และดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับความต้องการของประชาชนต่อไป ผลการสำรวจมีสาระสำคัญ สรุปดังนี้

1. ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนโดยรวมทั่วประเทศต้องการให้รัฐบาลดำเนินการในปี 2553 มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ เรื่องปัญหาหนี้สินของประชาชน ร้อยละ 38.0 รองลงมา เรื่องปัญหาความยากจน ร้อยละ 32.3 และเรื่องปัญหาราคาสินค้าอุปโภค/บริโภคและให้มีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ร้อยละ 32.2

เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องปัญหาหนี้สินของประชาชนมากที่สุด ร้อยละ 46.7 ขณะที่ภาคเหนือ และภาคใต้ ต้องการให้ดำเนินการเรื่องเดียวกัน คือ ประกันราคาผลผลิตการเกษตร ร้อยละ 41.9 และร้อยละ 34.6 ส่วนกรุงเทพมหานคร ต้องการให้ดำเนินการเรื่องปัญหาความยากจนมากที่สุด ร้อยละ 39.4 และภาคกลาง เรื่องการแก้ปัญหาราคาสินค้าอุปโภค/บริโภคและให้มีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคร้อยละ 37.1

2. สำหรับความต้องการของประชาชนที่จะให้รัฐบาลเข้ามาดำเนินการในด้านต่างๆ ในปี 2553 3 อันดับแรก คือ ด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 48.8 รองลงมาเป็นด้านการเกษตร ร้อยละ 21.7 ด้านสังคมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 16.1 ทั้งนี้ พบว่าทุกภาคมีประชาชนให้ความสำคัญกับด้านเศรษฐกิจมากที่สุด เช่นเดียวกัน ตามลำดับ ดังนี้ ภาคกลาง ร้อยละ 53.5 ภาคใต้ ร้อยละ 52.6 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 51.1 ภาคเหนือ ร้อยละ 46.0 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 44.7

3. เมื่อสอบถามประชาชน เกี่ยวกับความเดือดร้อนที่ชุมชน / หมู่บ้าน ได้รับในรอบปี 2552 ประชาชนโดยรวมระบุความเดือดร้อนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ เรื่องปัญหาหนี้สินและเงินกู้นอกระบบ ร้อยละ 40.3 รองลงมา เรื่องราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ร้อยละ 34.7 และเรื่องปัญหาการว่างงานในชุมชน ร้อยละ 22.1

ในระดับภาค พบว่า ภาคเหนือและภาคใต้ มีชุมชน / หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดในเรื่องเดียวกัน คือ เรื่องราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ร้อยละ 52.5 และร้อยละ 39.5 ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เดือดร้อนในเรื่องปัญหาหนี้สินและเงินกู้นอกระบบมากที่สุด ร้อยละ 47.3 และร้อยละ 39.9 ส่วนกรุงเทพมหานคร เดือดร้อนเรื่องปัญหายาเสพติดมากที่สุด ร้อยละ 42.0

4. สำหรับความช่วยเหลือที่ชุมชน / หมู่บ้านต้องการให้รัฐบาลเข้าไปดำเนินการอย่างเร่งด่วนในปี 2553 มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ เรื่องปัญหาหนี้สินและเงินกู้นอกระบบ ร้อยละ 29.3 รองลงมาเป็นเรื่องประกันราคาผลผลิตการเกษตร ร้อยละ 27.8 เรื่องหางานให้ทำและส่งเสริมอาชีพ ร้อยละ 18.3

เมื่อพิจารณาในระดับภาค พบว่า ภาคเหนือและภาคใต้ ระบุเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คือ เรื่องประกันราคาผลผลิตการเกษตร ร้อยละ 42.4 และร้อยละ 31.9 ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางให้ช่วยในเรื่องปัญหาหนี้สินและเงินกู้นอกระบบ ร้อยละ 37.6 และร้อยละ 25.6 และกรุงเทพมหานคร ให้ช่วยในเรื่องปัญหายาเสพติด ร้อยละ 34.0

5. นอกจากนี้ ประชาชนในภาพรวมได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน/พัฒนาประเทศให้ดีขึ้น โดยเชื่อมั่น ร้อยละ 45.0 ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบร้อยละ 34.4 และไม่เชื่อมั่น 20.6

โดยในระดับภาค พบว่า ภาคใต้มีประชาชนให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลฯ ในสัดส่วนค่อนข้างสูงถึงร้อยละ 75.5 ขณะที่กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ และภาคกลาง มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ฯ ประมาณร้อยละ 40-46 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 34.1

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มกราคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ