ขออนุมัติหลักการร่างแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553-2559)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 27, 2010 16:39 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553-2559) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทย สู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553 — 2559) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 วงเงินงบประมาณ ทั้งสิ้น 957 ล้านบาท นั้น ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งดังกล่าว ต่อคณะกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่า

1. ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2551 โดยนโยบายการกีฬาและนันทนาการ กำหนดให้มีการพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ โดยจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ พร้อมทั้งนำวิทยาศาสตร์การกีฬา มาใช้ จัดให้มีการควบคุมมาตรฐานการฝึกสอนด้านการกีฬาให้มีคุณภาพ และสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้จัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553-2559) เสนอคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการกีฬาและนันทนาการที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานและคณะกรรมการกีฬาแห่งประเทศไทยพิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบในหลักการ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย สื่อมวลชน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านกีฬา

2. สาระสำคัญของแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553-2559) สรุปได้ดังนี้

2.1 วิสัยทัศน์

ประเทศไทยเป็นเลิศและเป็นศูนย์กลางกีฬาระดับนานาชาติของเอเชีย

2.2 พันธกิจ

(1) ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนากีฬาให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ

(2) ส่งเสริม สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาระดับนานาชาติของเอเชีย

(3) ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคลากรกีฬามีบทบาทในองค์กรกีฬาระดับนานาชาติ

2.3 เป้าประสงค์

(1) อันดับที่ประเทศไทยได้รับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ

(1.1) ประเทศไทยได้อันดับที่ 1 จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ (ในชนิดกีฬาสากลที่มีการแข่งขัน)

(1.2) ประเทศไทยได้อันดับที่ 1-3 จากการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์

(1.3) ประเทศไทยได้อันดับที่ 1-3 ของเอเชียจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และกีฬาพาราลิมปิกเกมส์

(2) จำนวนชนิดกีฬาที่นักกีฬาไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 ชนิดกีฬา

(3) จำนวนนักกีฬาไทยที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10

(4) จำนวนรายการจัดการแข่งขันที่ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาเป็นเลิศระดับนานาชาติ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี

(5) จำนวนบุคลากรกีฬาได้รับคัดเลือกเป็นคณะกรรมการในองค์กรกีฬา/สหพันธ์กีฬาระดับนานาชาติ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5

(6) จำนวนศูนย์ฝึกกีฬานานาชาติที่สหพันธ์กีฬารับรอง 10 ชนิดกีฬา

(7) ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ

2.4 แผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553-2559) ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ และ 6 กลยุทธ์ ในกรอบวงเงิน 19,133,920,000 บาท ดังนี้

(1) ยุทธศาสตร์สร้างและพัฒนานักกีฬาอย่างเป็นระบบครบวงจร กรอบวงเงิน 8,132,600,000 บาท

กลยุทธ์ที่ 1 : เพิ่มขีดสมรรถนะของนักกีฬาอย่างเป็นระบบครบวงจร

กลยุทธ์ที่ 2 : สนับสนุนการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ

(2) ยุทธศาสตร์ยกระดับบุคลากรกีฬาสู่ระดับนานาชาติ กรอบวงเงิน 3,847,400,000 บาท

กลยุทธ์ที่ 1 : พัฒนาบุคลากรกีฬาสู่มาตรฐานยกระดับนานาชาติ

กลยุทธ์ที่ 2 : สนับสนุนบุคลากรกีฬาเป็นกรรมการบริหารองค์กรกีฬาระดับนานาชาติ

(3) ยุทธศาสตร์ผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางกีฬาเอเชีย (Sports Hub of Asia) กรอบวงเงิน 7,153,920,000 บาท

กลยุทธ์ที่ 1 : สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ

กลยุทธ์ที่ 2 : จัดหาและพัฒนาศูนย์กลางกีฬาของเอเชีย

3. ภารกิจของร่างแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553-2559) ที่สำคัญคือ

3.1 การเตรียมและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ และความมั่นใจให้แก่นักกีฬา เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม และสามารถนำชัยชนะสู่ประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดเตรียมนักกีฬา ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 4 โครงการ รวมวงเงินทั้งสิ้น 590 ล้านบาท คือ

(1) โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการส่องกล้องมองช้างเผือกจากสมาคมกีฬา วงเงิน 250 ล้านบาท

(2) โครงการเพิ่มขีดความสามารถนักกีฬาที่คาดว่าจะได้รับเหรียญรางวัล วงเงิน 90 ล้านบาท

(3) โครงการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาคนพิการในการแข่งขันระดับนานาชาติ วงเงิน 200 ล้านบาท

(4) โครงการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ มุ่งสู่โอลิมปิก วงเงิน 50 ล้านบาท

3.2 การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ กีฬาเอเชี่ยนอินเดอร์เกมส์ ในปี 2556 หรือ 2558 กีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ในปี 2559 เป็นต้น

3.3 การก่อสร้างสถานกีฬา เพื่อรองรับการฝึกซ้อมของนักกีฬาโดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 แล้ว จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ จังหวัดสระบุรี วงเงิน 76.92 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรรงบประมาณอีกจำนวน 5 โครงการ รวมวงเงิน 367 ล้านบาท คือ

(1) โครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี วงเงิน 180 ล้านบาท แยกเป็น ศูนย์ฝึกกีฬาคนพิการ : อาคารที่พักนักกีฬา วงเงิน 50 ล้านบาท สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน 50 เมตร พร้อมหลังคาและสระกระโดด วงเงิน 80 ล้านบาท และศูนย์ฝึกกีฬาอเนกประสงค์ วงเงิน 50 ล้านบาท

(2) โครงการปรับปรุงและติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ช่องยิงมาตรฐาน 50 ช่อง สนามยิงปืน สนามกีฬาหัวหมาก วงเงิน 60 ล้านบาท

(3) ก่อสร้างและปรับปรุงศูนย์ฝึกกีฬาเรือพายน้ำเรียบ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน จังหวัดชลบุรี วงเงิน 50 ล้านบาท

(4) ก่อสร้างและปรับปรุงศูนย์ฝึกกีฬาเรือพายแคนูประเภทสลาลม จังหวัดนครนายก วงเงิน 27 ล้านบาท

(5) ก่อสร้างและปรับปรุงศูนย์ฝึกกีฬายกน้ำหนัก มวยปล้ำ ยูโด และเทเบิลเทนนิส จังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 50 ล้านบาท

3.4 การพัฒนาผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และบุคลากรสนับสนุนต่าง ๆ สู่มาตรฐานระดับนานาชาติ และสนับสนุนบุคลากรกีฬาเป็นกรรมการบริหารองค์กรกีฬาในระดับนานาชาติ ได้แก่ การจ้างผู้ฝึกสอนชาวต่างชาติที่มีความสามารถ การส่งเสริมให้บุคลากรกีฬาเป็นกรรมการในสหพันธ์กีฬาระดับโลก ระดับภูมิภาค หรือคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย ซึ่งจะมีผลต่อการผลักดันแผนการเข้าร่วมการแข่งขัน และเป้าหมายเหรียญทองทั้งในระดับภูมิภาคและโอลิมปิกด้วย

4. การดำเนินงานตามร่างแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553 — 2559) ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมนักกีฬาตั้งแต่เยาว์วัย โดยคัดเลือกจากนักกีฬาที่มีความสามารถจาก 75 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อผ่านการคัดเลือกและเข้าสู่การเตรียมนักกีฬาของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย การให้ความสำคัญกับกีฬาที่จะได้เหรียญ อาทิ มวยสากล ยกน้ำหนัก เทควันโด ยิงปืน ยิงเป้าบิน เทนนิส แบดมินตัน กรีฑา (กระโดดไกล) และมวยปล้ำ เป็นต้น รวมทั้ง ยังได้ให้ความสำคัญกับกีฬาคนพิการซึ่งได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใช้งบประมาณประจำปีของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายในกรอบวงเงิน 19,133.92 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ภายในวงเงิน 1,033.92 ล้านบาท ซึ่งได้รับการอนุมัติงบประมาณแล้ว จำนวน 76.92 ล้านบาท และได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง พ.ศ. 2555 ประจำปี พ.ศ. 2553 อีกจำนวน 957 ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 - 2559 จะได้จัดทำแผนงาน/โครงการ และกรอบวงเงินเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อโปรดพิจารณาต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มกราคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ