การรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 10, 2010 14:47 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170

คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้

1. รับทราบผลการดำเนินงานในการติดตาม เร่งรัด และรวบรวมรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินของหน่วยงานของรัฐทั้งหมด ดังนี้

1.1 จากการเวียนแจ้งหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จำนวน 300 หน่วยงานที่ยังมิได้จัดส่งรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน เร่งรัดการจัดทำรายงานตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 รวมทั้งการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และรายงานสรุปผลการประเมินผลการบริหารและการดำเนินงานจากการใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินนั้น มีหน่วยงานจัดทำรายงานส่งให้ สำนักงบประมาณ ณ วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 แล้ว จำนวน 106 หน่วยงาน และ 30 กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน อนึ่ง มีหน่วยงานจำนวน 54 หน่วยงาน และ 19 กองทุน ได้ส่งรายงานฯ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยรายงานดังกล่าวมีทั้งที่คณะรัฐมนตรีรับทราบและเสนอให้รัฐสภารับทราบแล้ว

1.2 หน่วยงานที่รายงานมายังสำนักงบประมาณตามข้อ 1 จำแนกเป็น

1.2.1 หน่วยงานที่รายงานว่าไม่มีเงินรายได้ที่ไม่ต้องส่งเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวน 18 หน่วยงาน

1.2.2 หน่วยงานที่มีการจัดทำรายงานฯ ครบถ้วน ตามรูปแบบที่กำหนด และจัดทำวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน จำนวน 15 หน่วยงาน และ 14 กองทุน

1.2.3 หน่วยงานที่มีการจัดทำรายงานฯ ครบถ้วน ตามรูปแบบที่กำหนด แต่มิได้จัดทำวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน จำนวน11 หน่วยงาน และ 3 กองทุน

1.2.4 หน่วยงานที่มีการจัดทำรายงานฯ ไม่ครบถ้วน ไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด เช่น ไม่มีข้อมูลวิเคราะห์รายงานแสดงฐานะการเงิน ข้อมูลวิเคราะห์ผลการดำเนินงานเป็นต้น จำนวน 62 หน่วยงาน และ 13 กองทุน

2. เห็นชอบในการขยายระยะเวลาการจัดทำรายงานของหน่วยงานต่าง ๆ สำหรับหน่วยงานที่ยังมิได้จัดส่งรายงานฯ หรือจัดส่งแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 ให้รายงานภายใน 2 สัปดาห์ จึงจำเป็นที่จะต้องขยายเวลาโดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงเจ้าสังกัดเป็นผู้ติดตามรวบรวมรายงาน จัดส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 2 สัปดาห์ (วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553) เพื่อที่สำนักงบประมาณจะได้เสนอคณะรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง

3. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารรายงานตามรูปแบบการรายงานและการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะรายงานให้สภาผู้แทนราษฎรและ วุฒิสภาทราบต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ