คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติ ประจำปี 2549 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ “ธนาคาร” หมายความว่า “ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธนาคารที่เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงการคลัง”
2. กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิกู้เงินตามโครงการ เช่น เป็นข้าราชการซึ่งรับราชการแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธ์ของตนเองและเป็นผู้ยื่นความประสงค์ขอกู้เงินและได้รับอนุมัติให้กู้เงินตามโครงการจากธนาคาร
3. กำหนดวงเงินที่จะให้ข้าราชการแต่ละรายกู้ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด แต่วงเงินขั้นสูงไม่เกินห้าล้านบาท สำหรับข้าราชการและคู่สมรสให้มีสิทธิกู้เงินได้รวมกันไม่เกินวงเงินขั้นสูงดังกล่าว
4. กำหนดให้ผู้กู้เงินตามโครงการที่ออกจากราชการไม่ว่าด้วยเหตุใดหรือพ้นจากราชการเพราะเกษียณอายุนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ไม่ต้องชดใช้เงินส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ได้รับตามพระราชกฤษฎีกากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติคืนให้แก่ทางราชการ
5. กำหนดให้กรณีผ่อนชำระเงินกู้มาแล้วเป็นเวลาไม่ถึงสิบปี ให้ผู้กู้เงินนั้นมีสิทธิผ่อนชำระเงินกู้ต่อไป โดยเสียดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกตินับแต่วันถัดจากวันที่ออกจากราชการ
กระทรวงการคลังเสนอว่า พระราชกฤษฎีกาสัวสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2535 ได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานาน สมควรปรับปรุงเพื่อให้การจัดสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการและลูกจ้างประจำเป็นไปตามเจตนาที่ต้องการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งเพื่อลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานของส่วนราชการ จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กันยายน 2549--จบ--
ร่างพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ “ธนาคาร” หมายความว่า “ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธนาคารที่เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงการคลัง”
2. กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิกู้เงินตามโครงการ เช่น เป็นข้าราชการซึ่งรับราชการแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธ์ของตนเองและเป็นผู้ยื่นความประสงค์ขอกู้เงินและได้รับอนุมัติให้กู้เงินตามโครงการจากธนาคาร
3. กำหนดวงเงินที่จะให้ข้าราชการแต่ละรายกู้ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด แต่วงเงินขั้นสูงไม่เกินห้าล้านบาท สำหรับข้าราชการและคู่สมรสให้มีสิทธิกู้เงินได้รวมกันไม่เกินวงเงินขั้นสูงดังกล่าว
4. กำหนดให้ผู้กู้เงินตามโครงการที่ออกจากราชการไม่ว่าด้วยเหตุใดหรือพ้นจากราชการเพราะเกษียณอายุนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ไม่ต้องชดใช้เงินส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ได้รับตามพระราชกฤษฎีกากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติคืนให้แก่ทางราชการ
5. กำหนดให้กรณีผ่อนชำระเงินกู้มาแล้วเป็นเวลาไม่ถึงสิบปี ให้ผู้กู้เงินนั้นมีสิทธิผ่อนชำระเงินกู้ต่อไป โดยเสียดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกตินับแต่วันถัดจากวันที่ออกจากราชการ
กระทรวงการคลังเสนอว่า พระราชกฤษฎีกาสัวสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2535 ได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานาน สมควรปรับปรุงเพื่อให้การจัดสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการและลูกจ้างประจำเป็นไปตามเจตนาที่ต้องการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งเพื่อลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานของส่วนราชการ จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กันยายน 2549--จบ--