คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553) รวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 - 22 กุมภาพันธ์ 2553)
1.1 พื้นที่ประสบภัย 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย ตาก น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี สระแก้ว ตรัง นครศรีธรรมราช ระนอง และจังหวัดสตูล รวม 173 อำเภอ 1,150 ตำบล 7,494 หมู่บ้าน แยกเป็นข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2553 (ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553)
ที่ พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด คน ครัวเรือน 1 เหนือ 10 91 611 3,785 กำแพงเพชร เชียงราย ตาก น่าน 995,367 322,447 พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ 2 ตะวันออก 4 46 342 2,368 ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี 799,154 202,533 เฉียงเหนือ 3 กลาง 4 14 91 644 ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี 138,891 35,755 สุพรรณบุรี 4 ตะวันออก 1 8 51 401 สระแก้ว 227,060 53,152 5 ใต้ 4 14 55 296 ตรัง นครศรีธรรมราช ระนอง สตูล 90,144 19,699 รวมทั้งประเทศ 23 173 1,150 7,494 2,250,616 633,586
ข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2552 ในห้วงเวลาเดียวกัน
ที่ พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด คน ครัวเรือน 1 เหนือ 11 70 436 3,174 กำแพงเพชร ตาก น่าน พิจิตร แพร่ 947,179 274,524 ลำปาง พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พะเยา ลำพูน 2 ตะวันออก 2 15 94 872 ชัยภูมิ ขอนแก่น 423,888 96,693 เฉียงเหนือ 3 กลาง 3 12 87 306 ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี 135,426 32,229 4 ตะวันออก 5 24 122 1,067 ตราด สระแก้ว จันทบุรี 606,578 158,804 ระยอง ฉะเชิงเทรา 5 ใต้ 2 5 19 108 ชุมพร ตรัง 23,179 6,782 รวมทั้งประเทศ 23 126 758 5,527 2,136,250 569,032
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2553 กับปี 2552 ในห้วงเวลาเดียวกัน
ที่ ภาค จำนวนหมู่บ้าน ข้อมูลปี 2553 ข้อมูลปี 2552 เปรียบเทียบข้อมูลภัย ทั้งประเทศ (ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553) (ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2552) แล้ง ปี 2553 กับปี 2552 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ จำนวน คิดเป็นร้อยละ ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง หมู่บ้าน ของหมู่บ้านที่ ภัยแล้ง ประเทศ) ภัยแล้ง ทั้งประเทศ) + เพิ่ม/ ประสบภัยแล้ง - ลด ปี 2552 1 เหนือ 16,590 3,785 22.81 3,174 19.13 611 19.25 2 ตะวันออก 33,099 2,368 7.15 872 2.63 1,496 171.56 เฉียงเหนือ 3 กลาง 11,736 644 5.49 306 2.61 338 110.46 4 ตะวันออก 4,859 401 8.25 1,067 21.96 -666 -62.42 5 ใต้ 8,660 296 3.42 108 1.25 188 174.07 รวม 74,944 7,494 10 5,527 7.37 1,967 35.59
เปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 มีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง รวม 23 จังหวัด 126 อำเภอ 785 ตำบล 5,527 หมู่บ้าน (คิดเป็น 28.45 % ของหมู่บ้านทั้งหมดใน 23 จังหวัด ที่ประสบภัยแล้ง และคิดเป็น 7.37 % ของหมู่บ้านทั้งหมดของประเทศ) ปี 2553 หมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง มากกว่าปี 2552 จำนวน 1,967 หมู่บ้าน หรือ เพิ่มขึ้น 35.59 %
1.2 ความเสียหาย
- ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,250,616 คน 633,586 ครัวเรือน
- พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย รวม 82,274 ไร่ แยกเป็น พืชไร่ 78,353 ไร่ นาข้าว 3,431 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 490 ไร่
1.3 การให้ความช่วยเหลือ
1) ใช้รถบรรทุกน้ำ 110 คัน แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว จำนวน 4,632,000 ลิตร
2) ซ่อมสร้างทำนบ/ฝายชั่วคราวปิดกั้นลำน้ำ 1,776 แห่ง
3) ขุดลอกแหล่งน้ำ 270 แห่ง
4) งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว 123,412,470 บาท แยกเป็น
- งบทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 123,412,470 บาท
- งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)
5) กรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ 575 เครื่อง ไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ 36 จังหวัด โดยแยกเป็นรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ 231 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 228 เครื่อง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก 116 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำ จำนวน 6 คัน
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 22-27 กุมภาพันธ์ 2553
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ในช่วงวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2553 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงได้บางแห่ง จากนั้นในช่วงวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ 2553 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553--จบ--