ชี้แจงการเชื่อมโยงระบบตรวจสอบทะเบียนประวัติบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการ ปกครอง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 24, 2010 14:26 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบการชี้แจงการเชื่อมโยงระบบตรวจสอบทะเบียนประวัติบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการปกครอง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

ด้วยปรากฏข่าวสารทางสื่อมวลชนว่า หน่วยงานบางหน่วยงานไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลจากกรมการปกครองได้ และในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า กรมการกงสุล ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลภาพใบหน้าประชาชนผู้ไปติดต่อขอทำหนังสือเดินทางจากกรมการปกครองได้ และนายกรัฐมนตรีได้ให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงเพื่อโปรดทราบ กระทรวงมหาดไทยได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

1. กรณีที่มีหน่วยงานบางหน่วยงานไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลจากกรมการปกครองได้มีสาเหตุจาก กรมการปกครองได้มีหนังสือ ที่ มท 0309.5/ว 13169 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 แจ้งหน่วยงานที่เชื่อมโยงข้อมูลจากกรมการปกครองให้ทราบว่า กรมการปกครองจะทำการเปลี่ยนแปลงระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล จากเดิมที่ใช้ Key User และ Password เพื่อเรียกใช้ข้อมูลเป็นการใช้บัตรประจำตัวประชาชน แบบ Smart Card ของผู้ใช้งาน ในการเรียกใช้ข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เนื่องจากมีการใช้ Password ของบุคคลอื่นเพื่อการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ยากต่อการรักษาความปลอดภัย แต่ผู้ใช้งานบางหน่วยงานยังมิได้ปรับปรุงวิธีการเข้าถึงข้อมูลตามที่กรมการปกครองแจ้งไปจึงไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลได้ ซึ่งกรมการปกครอง (สำนักบริหารการทะเบียน) ได้ประสานงานและอธิบายวิธีดำเนินการแก้ไข จนถึงปัจจุบันสามารถใช้งานได้แล้ว

2. กรณีกรมการกงสุล ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลภาพใบหน้าจากกรมการปกครองได้ มีสาเหตุมาจากระบบคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ (Server) ของทั้งสองฝ่ายเกิดข้อขัดข้องทางเทคนิค ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ เนื่องจากมีปริมาณการเรียกใช้งานเป็นจำนวนมาก จนเต็มขีดความสามารถหรือเกินขีดความสามารถของระบบ ทั้งนี้ เนื่องจากการขยายจำนวนของสำนักทะเบียน (1,077 แห่ง) จำนวนหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ (Mobile Unit 77 แห่ง) และจำนวนหน่วยงานที่ขอเชื่อมโยงและใช้ข้อมูลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น (94 หน่วยงาน เรียกใช้ข้อมูลปีละประมาณ 152 ล้านรายการ) ซึ่งทั้งหมดเรียกใช้ข้อมูลช่วงเวลาเดียวกัน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือและแก้ไขปัญหาร่วมกันในระดับหนึ่งแล้ว และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน กรมการปกครอง จึงได้เสนอแนวทางการแก้ไขให้กรมการกงสุล อ่านข้อมูลรายการบุคคลและภาพใบหน้า (อ่านข้อมูลใน IC Chip) จากบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ของประชาชนที่มาติดต่อขอทำหนังสือเดินทาง โดยใช้เครื่องอ่านบัตร (Smart Card Reader) แทนวิธีการเดิม ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นปัจจุบันที่สุด และไม่ต้องใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมาก ทั้งนี้ หากกรมการกงสุลยังไม่สามารถจัดหาเครื่องอ่านบัตร (Smart Card Reader) ได้ทัน กรมการปกครองยินดีสนับสนุนเครื่องอ่านบัตร ให้ยืมใช้งานไประยะหนึ่งก่อน และกรมการปกครองได้มีหนังสือแจ้งกรมการกงสุลแล้ว

3. การเรียกใช้ข้อมูลในปัจจุบัน เป็นปริมาณที่สูงมากจนส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถของระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กรมการปกครองใช้งานมาเป็นเวลานานถึง 6 ปี และหมดอายุสัญญาฯ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

4. ในการแก้ปัญหาระยะยาว กรณีความสามารถของระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันที่มีความสามารถรองรับการประมวลผลได้ 10,000 จอผู้ใช้งานนั้น กรมการปกครองได้กำหนดให้ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหามาทดแทนระบบเดิมจะต้องมีความสามารถรองรับได้ 50,000 จอ ผู้ใช้งาน ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้โดยสิ้นเชิง

5. กรมการปกครองได้แจ้งหน่วยงานที่ขอใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลกลางของกรมการปกครอง ทั้ง 94 หน่วยงาน ทราบว่า หากมีปัญหาและข้อขัดข้องของระบบการตรวจสอบข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ ขอให้หน่วยงานผู้ขอใช้ข้อมูล ประสาน แจ้งให้กรมการปกครอง (สำนักบริหารการทะเบียน) ทราบในโอกาสแรก ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2791-7523-5 เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปโดยเร็ว และไม่ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ