รายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยการศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 24, 2010 14:28 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยการศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามมติคณะกรรมการอำนวยการศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ ตามที่นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ เสนอดังนี้

ข้อเท็จจริง

คณะกรรมการอำนวยการศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยฯ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ครั้งที่ 2/2553 ขึ้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 ณ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีผลการประชุมที่สำคัญสรุปได้ดังนี้

1. ยอดเงินรับบริจาคของศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยฯ

ที่ประชุมรับทราบรายงานยอดเงินรับบริจาคของศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยฯ ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 16.30 น. จำนวน 66,212,626.44 บาท และศูนย์รวมน้ำใจชาวไทยฯ ยังคงเปิดรับบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2553 ซึ่งมีรัฐวิสาหกิจ จังหวัด ธนาคารภาครัฐและเอกชนร่วมบริจาคและเปิดรับบริจาคด้วย โดยจะส่งยอดเงินมารวมที่ศูนย์รวมน้ำใจฯ

2. การจัดส่งข้าวสารในส่วนที่เหลือ

ที่ประชุมรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า World Food Program (WFP) ได้แจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบว่าบริษัท Maersk Line รับจะให้การสนับสนุนค่าระวางเรือบรรทุกข้าวสารจำนวน 3,525 ตันจากท่าเรือในประเทศไทยไปยังท่าเรือปลายทางตามที่ WFP กำหนด และรัฐบาลนิวซีแลนด์รับจะให้การสนับสนุนเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ ซึ่ง WFP ได้คิดคำนวณเป็นค่าระวางเรือสำหรับบรรทุกข้าวสารจำนวน 1,203 ตัน และเห็นชอบแนวทางการจัดส่งข้าวสารเพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเฮติ งวดที่ 2 และงวดที่ 3 รวมจำนวนทั้งสิ้น 4,728 ตัน โดยให้ดำเนินการดังนี้

(1) ให้กระทรวงพาณิชย์จัดเตรียมข้าวสารขาวชนิด 5 เปอร์เซ็นต์ รวม 4,728 ตัน เพื่อส่งมอบตามงวดของการจัดส่ง ดังนี้

  • ข้าวสารในงวดที่ 2 จำนวน 3,525 ตัน ให้จัดเตรียมให้แล้วเสร็จ เพื่อดำเนินกระบวนการจัดส่งให้เรือบรรทุกสินค้า ณ ท่าเรือที่ WFP กำหนด ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2553 และดำเนินการจัดเตรียมให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 มีนาคม 2553
  • ข้าวสารในงวดที่ 3 จำนวน 1,203 ตัน ให้จัดเตรียมให้แล้วเสร็จ เพื่อดำเนินกระบวนการจัดส่งให้เรือบรรทุกสินค้า ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553

(2) ค่าใช้จ่ายในการจัดหาข้าวสาร การปรับปรุงสภาพ การบรรจุถุง และการขนส่งจากคลังสินค้าไปยังท่าเรือที่ WFP กำหนด รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้าในบริเวณท่าเรือไปยังเรือบรรทุกสินค้า ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบ และเสนอขออนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับรายการของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้าในบริเวณท่าเรือไปยังเรือบรรทุกสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ต้องรับผิดชอบให้ชัดเจนโดยเร็ว

(3) เนื่องจากการกำหนดระยะเวลาในการจัดส่งข้าวสารงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ทาง WFP จะเป็นผู้กำหนดโดยพิจารณาจากตารางการเดินเรือของสายการเดินเรือพันธมิตร ซึ่งอาจเกิดขึ้นในระยะเวลาที่เหลื่อมล้ำหรือทับซ้อนกัน ดังนั้น จึงเห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการในการจัดเตรียมข้าวสารทั้ง 2 งวด รวมจำนวน 4,728 ตัน ควบคู่ไปพร้อมกัน

(4) ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เก็บรักษา และแจกจ่ายข้าวสารจากท่าเรือปลายทางไปยังผู้ประสบภัยชาวเฮติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 อนุมัติในหลักการให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นแล้วนั้น ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนการจัดส่งข้าวงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ต่อไป

(5) สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการในการส่งมอบและการขนส่งข้าวสารนั้น ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานงานโดยตรงกับกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

(6) ข้าวสารในที่เหลือที่ต้องส่งให้ครบ 20,000 ตัน ตามมติคณะรัฐมนตรีนั้น คณะกรรมการอำนวยการฯ จะกำหนดแนวทางการดำเนินงานและจะแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์ทราบต่อไป

3. ผลการสำรวจความต้องการความช่วยเหลือของคณะล่วงหน้า

ที่ประชุมรับทราบรายงานผลการสำรวจความต้องการความช่วยเหลือในสาธารณรัฐเฮติของคณะล่วงหน้าผู้แทนประเทศไทย ดังนี้

(1) ด้านสาธารณสุข สาธารณรัฐเฮติมีปัญหาในเรื่องน้ำไม่สะอาดมีสารปนเปื้อนในน้ำ สถานพยาบาล และห้องผ่าตัดไม่สะอาด ความต้องการแพทย์รักษาโรคทั่วไปขณะนี้ลดลง เนื่องจากชาวเฮติส่วนใหญ่กลับไปรับบริการจากสถานพยาบาลของรัฐแล้ว เครื่องเวชภัณฑ์มีจำนวนมากแต่ขาดการบริหารจัดการ กรณีผู้ป่วยหนักจะมีโรงพยาบาลภาคสนามที่มีเครื่องมือจากประเทศสหรัฐอเมริกามีทีมแพทย์จากเม็กซิโกช่วยเหลือ ความต้องการขณะนี้ คือ ทีมแพทย์ต่อยอดด้านการผ่าตัดต่อแขนขาเทียม ด้านจิตเวชขณะนี้ไม่พบปัญหา แต่ใน 2 — 3 เดือนข้างหน้าอาจจะมี โรคที่อาจจะมีตามมาในช่วงเดือนเมษายนจะเป็นโรคที่มาจากปัญหาน้ำไม่สะอาด ฝนตกในช่วงนี้จะเกิดโรคมาลาเรียจึงควรป้องกัน สำหรับทีมแพทย์และพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมจำนวน 3 ทีม ๆ ละ 10 — 15 คน โดยในช่วงแรกมีความพร้อมส่งได้ 1 ทีมภายในเดือนมีนาคม 2553

(2) ด้านสิ่งก่อสร้าง สาธารณรัฐเฮติมีปัญหาเรื่องขาดที่พักอาศัย อาคารที่มีอยู่มีรอยร้าวโดยทั่ว ส่วนใหญ่ต้องอาศัยในเต็นท์ซึ่งต้องตั้งบนถนน โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนที่จะถึงเป็นฤดูฝนจะเกิดปัญหาเรื่องที่พักมากมาย ความต้องการด้านนี้จึงควรมีเต็นท์จำนวนมากพอ สำหรับอาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ พังทลายทั่วไปมากมายการจะฟื้นฟูเป็นมูลค่ามหาศาลและต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 10 ปี การจะส่งทหารช่างไปช่วยเป็นเรื่องยากลำบากเพราะห่างไกลด้วยภูมิประเทศและการขนย้ายใช้งบประมาณสูงมาก แนวทางความช่วยเหลือจึงอาจให้ความร่วมมือผ่านทางองค์การ สหประชาชาติ

(3) ด้านการเกษตร สาธารณรัฐเฮติมีความต้องการพืชที่เป็นธัญญาหาร ขณะนี้องค์การสหประชาชาติให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา ครูสอนหนังสือ และก่อสร้างโรงเรียน แนวทางช่วยเหลือจึงอาจร่วมกับองค์การสหประชาชาติโดยสนับสนุนนักวิชาการเกษตรไปให้คำแนะนำสอนวิธีการเพาะปลูกในระยะยาวต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ