สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 3, 2010 16:06 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เป็นประจำทุกเดือน โดยสอบถามประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง ทุกจังหวัดทั่วประเทศ มีครัวเรือนตกเป็นตัวอย่าง 26,520 ครัวเรือนต่อเดือน สำหรับในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ในภาพรวมสถานการณ์แรงงาน จำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.3 แสนคน (จาก 5.2 แสนคน เป็น 3.9 แสนคน) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2551 หากเปรียบเทียบกับช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 2 หมื่นคน (จาก 4.1 แสนคน เป็น 3.9 แสนคน) สำหรับสาระสำคัญการสำรวจ สรุปได้ ดังนี้

1. ผู้อยู่ในกำลังแรงงานผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 38.80 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 38.33 ล้านคน ผู้ว่างาน 3.9 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 8.0 หมื่นคน ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2551 จำนวน 1.0 แสนคน (จาก 37.76 ล้านคน เป็น 38.80 ล้านคน)

2. ผู้มีงานทำ

2.1 ผู้มีงานทำ 38.33 ล้านคน เพิ่มจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2551 จำนวน 9.7 แสนคน (จาก 37.36 ล้านคน เป็น 38.33 ล้านคน) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 ซึ่งมีผู้ทำงานเพิ่มขึ้นและลดลงในสาขาต่าง ๆ ได้ดังนี้

(1) ผู้ทำงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผู้ทำงานในสาขาโรงแรมและภัตตาคารมากที่สุด 4.2 แสนคน (จาก 2.48 ล้านคน เป็น 2.90 ล้านคน) สาขาการขายส่ง ขายปลีกฯ เพิ่มขึ้น 2.8 แสนคน (จาก 5.62 ล้านคน เป็น 5.90 ล้านคน) สาขาการก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 1.4 แสนคน (จาก 2.02 ล้านคน เป็น 2.16 ล้านคน) สาขาการขนส่ง ฯ เพิ่มขึ้น 8 หมื่นคน (จาก 1.14 ล้านคน เป็น 1.22 ล้านคน) สาขาการศึกษา เพิ่มขึ้น 5 หมื่นคน (จาก 1.05 ล้านคน เป็น 1.10 ล้านคน) ตามลำดับ

(2) ผู้ทำงานลดลง ได้แก่ สาขาเกษตรกรรมลดลง 6 หมื่นคน และสาขาการผลิต 1.1 แสนคน (จาก 5.58 ล้านคน เป็น 5.47 ล้านคน) โดยเป็นการลดลงในสาขาการผลิตย่อย คือ สาขาการผลิตผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก 7.5 หมื่นคน (จาก 3.06 แสนคน เป็น 2.31 แสนคน) การผลิตยานยนต์ 5 หมื่นคน (จาก 2.91 แสนคน เป็น 2.41 แสนคน) การผลิตอุปกรณ์และเครื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 3.2 หมื่นคน (จาก 3.93 แสนคน เป็น 3.61 แสนคน) การผลิตเครื่องแต่งกาย 2.6 หมื่นคน (จาก 6.27 แสนคน เป็น 6.02 แสนคน) การผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่อโลหะ 2.4 หมื่นคน (จาก 2.83 แสนคน เป็น 2.59 แสนคน) การผลิตไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ 1.6 หมื่นคน (จาก 3.40 แสนคน เป็น 3.24 แสนคน) ตามลำดับ ส่วนสาขาการผลิตย่อยที่เพิ่มขึ้น เป็นการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม 6.2 หมื่นคน การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะประดิษฐ์ 4 หมื่นคน การผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์ 3 หมื่นคน การผลิตสิ่งทอ 1.8 หมื่นคน ที่เหลืออยู่ในสาขาการผลิตอื่นๆ

2.2 สำหรับผู้ทำงานได้ไม่เต็มเวลา (ทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) มีจำนวน 6.14 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 16.0 ของผู้ทำงานทั้งหมด หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2551 ลดลง ร้อยละ 1.5 (จากร้อยละ 17.5 เป็นร้อยละ 16.0) สำหรับผู้ทำงานได้เต็มเวลา (ทำงานตั้งแต่ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) มีจำนวน 32.19 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 84.0 ของผู้ทำงานทั้งหมด

3. ผู้ว่างงาน

3.1 ผู้ว่างงานทั่วประเทศมีจำนวน 3.9 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม (ลดลง 1.3 แสนคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2551) ประกอบด้วย ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 1.3 แสนคน อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.6 แสนคน โดยเป็นผู้ว่างงานที่มาจากภาคการบริการและการค้า 1.2 แสนคน ภาคการผลิต 9 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 5 หมื่นคน

3.2 ผู้ว่างงาน เป็นผู้มีการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษามากที่สุดจำนวน 1.25 แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1.04 แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 7.2 หมื่นคน ประถมศึกษา 5.5 หมื่นคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 3.6 หมื่นคน ตามลำดับ

3.3 ผู้ว่างงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลางมากที่สุด 9.8 หมื่นคน ภาคใต้ 9.5 หมื่นคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8.6 หมื่นคน ภาคเหนือ 7.1 หมื่นคน และกรุงเทพมหานคร 4.2 หมื่นคน หากคิดเป็นอัตราการว่างงานภาคใต้เป็นภาคที่มีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ 1.8 ต่ำสุดเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 0.7

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 มีนาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ