ร่างประกาศกระทรวงการคลัง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 10, 2010 09:37 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ....

และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการค้ำประกันการชำระหนี้ของหน่วยงานของรัฐ

รัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงินภาครัฐ พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการค้ำประกันการชำระหนี้ของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงินภาครัฐ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

ข้อเท็จจริง

กระทรวงการคลังเสนอว่า ด้วยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ได้กำหนดให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและการค้ำประกันได้ โดยการกู้เงินและการค้ำประกันดังกล่าวกฎหมายกำหนดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนดโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี ดังนั้น เพื่อเป็นการอนุวัติการตามความในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและ เงื่อนไขการกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และการค้ำประกันของกระทรวงการคลังขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้การกู้เงินและการค้ำประกันของกระทรวงการคลังมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนแล้ว การกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวยังช่วยสนับสนุนการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการกู้เงินของกระทรวงการคลังจากแหล่งเงินทุนต่างประเทศ และการค้ำประกันการชำระหนี้ให้แก่หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ของกระทรวงการคลังจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนอันจะช่วยผลักดันให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสำเร็จลุล่วงไปได้

สาระสำคัญของร่างประกาศ

1. ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ....

1.1 กำหนดให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้เฉพาะกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้

(1) เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีและต้องใช้เป็นเงินตราต่างประเทศ

(2) เมื่อมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ (ร่างข้อ 3)

1.2 กำหนดให้การกู้เงินกระทำได้เมื่อหน่วยงานของรัฐมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อดำเนินโครงการหรือแผนงานที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้ตามสัดส่วนค่าใช้จ่ายของโครงการหรือแผนงานที่ต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ (ร่างข้อ 4)

1.3 กำหนดให้การกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ ต้องเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ (ร่างข้อ 6)

1.4 กำหนดให้การกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้กระทรวงการคลังกู้เป็นเงินตราต่างประเทศ เว้นแต่กรณีภาวะตลาดการเงินในประเทศเอื้ออำนวยและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการเงิน การคลัง และตลาดทุน กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีอาจกู้เงินบาทแทนการกู้เงินตราต่างประเทศก็ได้ (ร่างข้อ 7)

1.5 ในปีงบประมาณหนึ่งกระทรวงการคลังจะกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ไม่เกินร้อยละสิบของงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่ต้องไม่เกินกรอบวงเงินกู้ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ (ร่างข้อ 8)

2. ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการค้ำประกันการชำระหนี้ของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงินภาครัฐ พ.ศ. ....

2.1 กำหนดให้กระทรวงการคลังจะค้ำประกันการชำระหนี้เงินกู้ของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินภาครัฐได้เฉพาะกรณีอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

(1) เป็นการกู้เงินเพื่อดำเนินโครงการหรือแผนงานในด้านสาธารณูปโภคหรือสาธารณูปการซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวม และเป็นโครงการหรือแผนงานที่มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมสูงแต่มีผลตอบแทนการเงินต่ำ หรือเป็นโครงการหรือแผนงานที่ราคาสินค้าและบริการอยู่ภายใต้การควบคุมตามนโยบายรัฐบาล ยกเว้นกรณีมีความจำเป็น และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล กระทรวงการคลังอาจพิจารณาการค้ำประกันให้เป็นรายกรณีได้

(2) เป็นการกู้เงินที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่หน่วยงานที่ราคาสินค้าและบริการอยู่ภายใต้การควบคุมตามนโยบายรัฐบาล หรือจำเป็นต้องใช้เงินกู้เพื่อดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล

(3) เป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ รัฐบาลต่างประเทศหรือสถาบันการเงินของรัฐบาลต่างประเทศที่กำหนดเงื่อนไขให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน

(4) เป็นการกู้เงินในขณะที่สภาวะตลาดการเงินไม่เอื้ออำนวย หากกระทรวงการคลังไม่ ค้ำประกันเงินกู้ให้แก่หน่วยงานอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐ

(5) เป็นการกู้เงินซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติให้รัฐบาลรับภาระทั้งหมดหรือบางส่วน

(6) เป็นการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งกระทรวงการคลังเคยค้ำประกัน (ร่างข้อ 3)

2.2 ห้ามมิให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้เงินกู้ต่าง ๆ ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) กรณีการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจที่มิได้ประกอบกิจการอันเป็นสาธารณูปโภคและมีผลประกอบการขาดทุนติดต่อกันเกินสามปี เว้นแต่กรณีการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจในระหว่างยุบเลิกกิจการตามมติคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงการคลังค้ำประกันได้

(2) กรณีหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินภาครัฐอยู่ระหว่างผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ต่อแหล่งเงินกู้ใดๆ (ร่างข้อ 4)

2.3 ในปีงบประมาณหนึ่งกระทรวงการคลังจะค้ำประกันได้ไม่เกินร้อยละยี่สิบของงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่ต้องไม่เกินกรอบวงเงินค้ำประกันตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ (ร่างข้อ 6)

2.4 เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณแล้วให้กระทรวงการคลังดำเนินการพิจารณาแหล่งเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาของการกู้เงิน รวมถึงการอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารหนี้สาธารณะ และในการค้ำประกันการชำระหนี้เงินกู้ ให้กระทรวงการคลังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการค้ำประกันหรือค่าธรรมเนียมอื่นใดได้ในอัตราและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดอัตราและเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการค้ำประกันของกระทรวงการคลัง (ร่างข้อ 7)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 มีนาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ