เรื่อง ของบประมาณเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
โครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ให้แก่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล จำนวน 93,519 คน เป็นเงิน 561,114,000 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงมหาดไทย (มท.) รายงานว่า
1. ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายที่ต้องการรักษาและเพิ่มรายได้ของประชาชนในเรื่องการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มท. ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ เพื่อใช้ในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ จำนวน 19,512,210,000 บาท ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ซึ่งงบประมาณจำนวนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการดำเนินงานตามโครงการ เพราะสามารถจัดสรรให้ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้เพียง จำนวน 3,252,035 คนเท่านั้น แต่จากข้อมูลที่ได้รับรายงานจากจังหวัดทั่วประเทศปรากฏว่า ผู้สูงอายุที่มีสิทธิตามหลักเกณฑ์ มีจำนวนทั้งสิ้น 3,345,554 คน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนสวัสดิการเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ อีกจำนวน 93,519 คน คิดเป็นเงิน 561,114,000 บาท ดังนั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวนผู้สูงอายุที่มีสิทธิและงบประมาณตามโครงการดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
งบประมาณ จำนวนผู้สูงอายุที่มีสิทธิตาม สวัสดิการเบี้ยยังชีพ จำนวนเงิน โครงการสร้างหลักประกัน (บาทต่อเดือนต่อคน) (บาทต่อปี) รายได้แก่ผู้สูงอายุ (คน) (1) พระราชบัญญัติ 3,252,035 500 19,512,210,000 งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (2) มท.ของบประมาณ 93,519 500 561,114,000 รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เพิ่มเติม รวมทั้งสิ้น 3,345,554 500 20,073,324,000
2. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้จัดสรรงบประมาณ เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ สำหรับสนับสนุนการจ่ายเงินสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำไปจ่ายให้ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 3,345,554 คน งวดแรก จำนวน 6 เดือน (เดือนตุลาคม 2552 — มีนาคม 2553) เป็นเงิน 10,036,662,000 บาท พร้อมแนวทางการปฏิบัติแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 มีนาคม 2553--จบ--