คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มีนาคม 2553) สรุปสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 - 8 มีนาคม 2553)
1.1 พื้นที่ประสบภัย 36 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย ตาก น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ พิจิตร เชียงใหม่ ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ชัยนาท นครนายก นครปฐม ลพบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ปราจีนบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช ระนอง และจังหวัดสตูล รวม 277 อำเภอ 1,874 ตำบล 13,975 หมู่บ้าน แยกเป็น
ข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2553 (ณ วันที่ 8 มีนาคม 2553)
ที่ พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด คน ครัวเรือน 1 เหนือ 13 120 768 5,310 กำแพงเพชร เชียงราย ตาก 1,095,820 367,961 น่าน นครสวรรค์ พะเยา พิจิตร แพร่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ 2 ตะวันออก 6 93 734 6,525 ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู 1,868,746 444,100 เฉียงเหนือ อุดรธานี อุบลราชธานี บุรีรัมย์ 3 กลาง 9 25 146 902 กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ 210,356 68,869 เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครนายก นครปฐม ลพบุรี 4 ตะวันออก 4 22 135 792 จันทบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว 646,452 114,393 ปราจีนบุรี 5 ใต้ 4 17 91 446 ตรัง นครศรีธรรมราช ระนอง สตูล 110,339 34,488 รวมทั้งประเทศ 36 277 1,874 13,975 3,931,713 1,029,811
ข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2552 ในห้วงเวลาเดียวกัน
ที่ พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด คน ครัวเรือน 1 เหนือ 11 85 480 3,727 กำแพงเพชร ตาก น่าน พิจิตร 1,034,706 301,780 แพร่ ลำปาง พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พะเยา ลำพูน 2 ตะวันออก 7 83 420 4,015 ชัยภูมิ ขอนแก่น นครพนม 1,478,807 356,689 เฉียงเหนือ สกลนคร นครราชสีมา กาฬสินธุ์ สุรินทร์ 3 กลาง 3 19 111 483 ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี 123,434 30,421 4 ตะวันออก 5 31 107 730 ตราด สระแก้ว จันทบุรี 271,124 77,598 ฉะเชิงเทรา ระยอง 5 ใต้ 3 10 47 277 ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช 55,915 15,160 รวมทั้งประเทศ 29 228 1,165 9,232 2,963,986 781,648
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2553 กับปี 2552 ในห้วงเวลาเดียวกัน
ที่ ภาค จำนวนหมู่บ้าน ข้อมูลปี 2553 ข้อมูลปี 2552 เปรียบเทียบข้อมูลภัย ทั้งประเทศ (ณ วันที่ 8 มีนาคม 2553) (ณ วันที่ 8 มีนาคม 2552) แล้ง ปี 2553 กับปี 2552 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ จำนวน คิดเป็นร้อยละ ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง หมู่บ้าน ของหมู่บ้านที่ ภัยแล้ง ประเทศ) ภัยแล้ง ทั้งประเทศ) + เพิ่ม/ ประสบภัยแล้ง - ลด ปี 2552 1 เหนือ 16,590 5,310 32.01 3,727 22.47 +1,583 +42.47 2 ตะวันออก 33,099 6,525 19.71 4,015 12.13 +2,510 +62.52 เฉียงเหนือ 3 กลาง 11,736 902 7.68 483 4.12 +419 +86.75 4 ตะวันออก 4,859 792 16.30 730 15.02 +62 +8.49 5 ใต้ 8,660 446 5.15 277 3.20 +169 +61.01 รวม 74,944 13,975 18.65 9,232 12.32 +4,743 +51.38
ปี 2553 มีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง 36 จังหวัด 277 อำเภอ 1,874 ตำบล 13,975 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 38.15 ของหมู่บ้านทั้งหมดในจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง 36,634 หมู่บ้าน และร้อยละ 18.65 ของหมู่บ้านทั้งประเทศ 74,944 หมู่บ้าน)
เปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 มีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง รวม 29 จังหวัด 228 อำเภอ 1,165 ตำบล 9,232 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 31.32 ของหมู่บ้านทั้งหมดใน 29 จังหวัด ที่ประสบภัยแล้ง และคิดเป็นร้อยละ 12.32 ของหมู่บ้านทั้งประเทศ 74,944 หมู่บ้าน)
ปี 2553 หมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง มากกว่า ปี 2552 จำนวน 4,743 หมู่บ้าน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.38
1.2 ความเสียหาย
- ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,931,713 คน 1,029,811 ครัวเรือน
- พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย รวม 118,414 ไร่ แยกเป็น พืชไร่ 114,327 ไร่ นาข้าว 3,431 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 656 ไร่
1.3 การให้ความช่วยเหลือ
1) ใช้รถบรรทุกน้ำ 348 คัน แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว จำนวน 46,758,650 ลิตร
2) ซ่อมสร้างทำนบ/ฝายชั่วคราวปิดกั้นลำน้ำ 2,559 แห่ง
3) ขุดลอกแหล่งน้ำ 479 แห่ง
4) งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว 264,452,113 บาท แยกเป็น
- งบทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 185,684,112 บาท
- งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 78,727,612 บาท (ข้อมูลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)
- งบอื่น ๆ 40,389 บาท
5) กรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ 669 เครื่อง ไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ 39 จังหวัด โดยแยกเป็นรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ 231 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 245 เครื่อง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก 160 เครื่อง ภาคใต้ 33 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำ 8 คัน
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 8 - 13 มีนาคม 2553
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ในช่วงวันที่ 8-12 มีนาคม 2553 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนได้ โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ทำให้อุณหภูมิลดลงซึ่งจะบรรเทาอากาศร้อนได้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ต้นไม้หักโค่น ป้ายโฆษณาหรือบ้านเรือนได้รับความเสียหาย สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2553 ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ให้จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากพายุฤดูร้อน อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรของประชาชน และแจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะคลื่นลมแรง ให้จังหวัดในภาคใต้ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคลื่นลมแรง และให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 มีนาคม 2553--จบ--