คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติผ่อนผันให้ส่งยุทธภัณฑ์ออกไปราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นกรณีพิเศษ สำหรับนำไปใช้ในโครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนสายเกาะกง-สรีอัมเบล หมายเลข 48 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
1. บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด ส่งออกวัตถุระเบิดอีมัลชั่น จำนวน 12,200 กิโลกรัม หรือเท่ากับ 101,504 นัด เพื่อจำหน่ายให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด
2. บริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งออกเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้า จำนวน 100,000 ดอก เพื่อจำหน่ายให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมชี้แจงว่า บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ได้รับการว่าจ้างจากกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมและคมนาคมรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา ให้รับจ้างดำเนินงานโครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนสายเกาะกง - สรีอัมเบล หมายเลข 48 (KOH KONG — SRE AMBEL ROAD IMPROVEMENT PROJECT ROUTE NO.48) ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลไทยสนับสนุนเงินกู้ให้กับรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาผ่านกองทุนให้ความช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยในการดำเนินการมีความจำเป็นต้องใช้วัตถุระเบิดและเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้าในการระเบิดภูเขาเพื่อเปิดเส้นทาง โดยได้ทำสัญญาสั่งซื้อวัตถุระเบิดอีมัลชั่น จำนวน 12,200 กิโลกรัม หรือเท่ากับ 101,504 นัด จากบริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และทำสัญญาสั่งซื้อเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้า จำนวน 100,000 ดอก จากบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด เนื่องจากไม่สามารถจัดหาได้ในราชอาณาจักรกัมพูชา
จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2548 ที่ให้ระงับการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามคำสั่ง ปร. 37 ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ซึ่งส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยไว้ทั้งหมดจนกว่าจะมีมติเปลี่ยนแปลง ทำให้บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการผลิต นำเข้า และส่งออก ไม่สามารถจำหน่ายและส่งออกซึ่งยุทธภัณฑ์ไปยังราชอาณาจักรกัมพูชาให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงก่อสร้างฯ ได้ ก่อให้เกิดปัญหาและส่งผลกระทบกับบริษัททั้งสามในด้านมูลค้าทางธุรกิจและการดำเนินกิจการของบริษัท ดังนั้น บริษัท สหการวิศวกร จำกัด บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด จึงขอให้กระทรวงกลาโหม พิจารณาดำเนินการผ่อนผันการส่งออกยุทธภัณฑ์ดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักรได้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้กรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร และคณะกรรมการพิจารณาการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหมพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการการให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2541 โดยได้ข้อยุติให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาผ่อนผันให้บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งออกซึ่งยุทธภัณฑ์ไปนอกราชอาณาจักรให้กับ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารการ นำเข้าและส่งออก เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบวิธีปฏิบัติของการนำเข้าและส่งออก ซึ่งยุทธภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้น ได้มีการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการการขนย้ายการเก็บรักษา และการควบคุมการใช้ซึ่งยุทธภัณฑ์ดังกล่าวใน ราชอาณาจักรกัมพูชาด้วยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 มกราคม 2549--จบ--
1. บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด ส่งออกวัตถุระเบิดอีมัลชั่น จำนวน 12,200 กิโลกรัม หรือเท่ากับ 101,504 นัด เพื่อจำหน่ายให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด
2. บริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งออกเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้า จำนวน 100,000 ดอก เพื่อจำหน่ายให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมชี้แจงว่า บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ได้รับการว่าจ้างจากกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมและคมนาคมรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา ให้รับจ้างดำเนินงานโครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนสายเกาะกง - สรีอัมเบล หมายเลข 48 (KOH KONG — SRE AMBEL ROAD IMPROVEMENT PROJECT ROUTE NO.48) ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลไทยสนับสนุนเงินกู้ให้กับรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาผ่านกองทุนให้ความช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยในการดำเนินการมีความจำเป็นต้องใช้วัตถุระเบิดและเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้าในการระเบิดภูเขาเพื่อเปิดเส้นทาง โดยได้ทำสัญญาสั่งซื้อวัตถุระเบิดอีมัลชั่น จำนวน 12,200 กิโลกรัม หรือเท่ากับ 101,504 นัด จากบริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และทำสัญญาสั่งซื้อเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้า จำนวน 100,000 ดอก จากบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด เนื่องจากไม่สามารถจัดหาได้ในราชอาณาจักรกัมพูชา
จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2548 ที่ให้ระงับการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามคำสั่ง ปร. 37 ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ซึ่งส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยไว้ทั้งหมดจนกว่าจะมีมติเปลี่ยนแปลง ทำให้บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการผลิต นำเข้า และส่งออก ไม่สามารถจำหน่ายและส่งออกซึ่งยุทธภัณฑ์ไปยังราชอาณาจักรกัมพูชาให้กับบริษัท สหการวิศวกร จำกัด เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงก่อสร้างฯ ได้ ก่อให้เกิดปัญหาและส่งผลกระทบกับบริษัททั้งสามในด้านมูลค้าทางธุรกิจและการดำเนินกิจการของบริษัท ดังนั้น บริษัท สหการวิศวกร จำกัด บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด จึงขอให้กระทรวงกลาโหม พิจารณาดำเนินการผ่อนผันการส่งออกยุทธภัณฑ์ดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักรได้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้กรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร และคณะกรรมการพิจารณาการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหมพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการการให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2541 โดยได้ข้อยุติให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาผ่อนผันให้บริษัท เติมเอนยิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งออกซึ่งยุทธภัณฑ์ไปนอกราชอาณาจักรให้กับ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารการ นำเข้าและส่งออก เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบวิธีปฏิบัติของการนำเข้าและส่งออก ซึ่งยุทธภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้น ได้มีการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการการขนย้ายการเก็บรักษา และการควบคุมการใช้ซึ่งยุทธภัณฑ์ดังกล่าวใน ราชอาณาจักรกัมพูชาด้วยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 มกราคม 2549--จบ--