คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย
ร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. ให้มีคณะกรรมการกำกับคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมการ และอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตเช่าคลังสินค้า ไซโล ห้องเย็น ตลอดจนพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และการทุเลาคำสั่ง
3. การประกอบกิจการคลังสินค้า กิจการไซโล หรือกิจการห้องเย็น จะกระทำได้ต่อเมื่อได้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด สหกรณ์ หรือองค์การของรัฐบาล และได้รับอนุญาตจากอธิบดี
4. กำหนดให้ผู้จัดตั้งคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเอง ซึ่งมีพื้นที่ ขนาด หรือความจุของคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็น ตามที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนการจัดตั้ง
5. กำหนดบทลงโทษผู้กระทำความผิดโดยเน้นโทษทางปกครอง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2548 เห็นชอบแผนพัฒนากฎหมายแบบบูรณาการของกระทรวงพาณิชย์ ประจำปี 2548 นั้น กระทรวงพาณิชย์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนากฎหมายระดับกระทรวงและระดับกรมขึ้น คณะกรรมการดังกล่าวได้พิจารณาเห็นว่าสมควรยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม พุทธศักราช 2515 ในส่วนของกิจการคลังสินค้าและกิจการซึ่งมีสภาพคล้ายคลึงกัน ซึ่งได้แก่ กิจการไซโล และห้องเย็น รวมทั้งประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดมาตรการดูแลการประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น แล้วตราเป็นพระราชบัญญัติ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 มีนาคม 2549--จบ--
ร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. ให้มีคณะกรรมการกำกับคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมการ และอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตเช่าคลังสินค้า ไซโล ห้องเย็น ตลอดจนพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และการทุเลาคำสั่ง
3. การประกอบกิจการคลังสินค้า กิจการไซโล หรือกิจการห้องเย็น จะกระทำได้ต่อเมื่อได้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด สหกรณ์ หรือองค์การของรัฐบาล และได้รับอนุญาตจากอธิบดี
4. กำหนดให้ผู้จัดตั้งคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเอง ซึ่งมีพื้นที่ ขนาด หรือความจุของคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็น ตามที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนการจัดตั้ง
5. กำหนดบทลงโทษผู้กระทำความผิดโดยเน้นโทษทางปกครอง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2548 เห็นชอบแผนพัฒนากฎหมายแบบบูรณาการของกระทรวงพาณิชย์ ประจำปี 2548 นั้น กระทรวงพาณิชย์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนากฎหมายระดับกระทรวงและระดับกรมขึ้น คณะกรรมการดังกล่าวได้พิจารณาเห็นว่าสมควรยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม พุทธศักราช 2515 ในส่วนของกิจการคลังสินค้าและกิจการซึ่งมีสภาพคล้ายคลึงกัน ซึ่งได้แก่ กิจการไซโล และห้องเย็น รวมทั้งประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดมาตรการดูแลการประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น แล้วตราเป็นพระราชบัญญัติ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 มีนาคม 2549--จบ--