วันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
ภายหลังการประชุมร้อยเอกยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงคำปรารภของ นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีให้แนวทางการทำงานในระยะเวลา 1 ปี ของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เวลาในการทำงานของคณะรัฐมนตรีมีระยะเวลาน้อยเพียงปีเดียวเพราะฉะนั้นต้องดำเนินการต่าง ๆ โดยทันที การทำงานให้เป็นในรูปแบบบูรณาการ ซึ่งถือว่าสำคัญมาก แล้วเรื่องต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกันหลายกระทรวงก็ให้มีการหารือกันได้เลย นายกรัฐมนตรี ได้แถลงกับสื่อมวลชนในวันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ถึงเรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการ ซึ่งท่านได้แจ้งให้คณะรัฐมนตรีได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง เรื่องสถานการณ์ภาคใต้ และเรื่องปัญหาเฉพาะหน้าคือเรื่องอุทุกภัย และเรื่องอื่นๆ ที่ถือเป็นวาระเร่งด่วนต่างๆ ซึ่งต้องการความร่วมมือ ประสานงานกันในทุก ๆ ด้าน
ส่วนสำคัญที่เป็นความยุ่งยากทั้งหลายที่ผ่านมานายกรัฐมนตรได้กล่าวว่า ควรจะมีความเป็นธรรมในสังคมให้เกิดขึ้นมากกว่า ความไม่เป็นธรรมในสังคม ท่านได้ยกตัวอย่างในภาคใต้ ซึ่งมีความแตกแยกมากขึ้น ซึ่งมีความไม่เป็นธรรมในสังคมเป็นตัวเร่งทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงขึ้นในระยะหลัง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา
เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในต่างประเทศอาจจะยังไม่มีความเข้าใจเต็มที่นัก นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง ในเรื่องของหลักการเศรษฐกิจพอเพียงและได้ขอให้รองนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านประสานงานเพื่อสร้างความเข้าใจในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำภาพของเศรษฐกิจพอเพียงว่าไม่ได้หมายความว่าเราไม่ให้ความสนใจในเรื่องของ market economy แต่ว่าเรื่อง market economy จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของเรามีความสมดุล มีความยั่งยืน และก็ไม่ได้เน้นในเรื่องของการเกษตรเพียงอย่างเดียว จริง ๆ แล้วเศรษฐกิจพอเพียงก็จะครอบคลุมไปถึงองค์ประกอบส่วนอื่น ๆ ด้วย ดูแลในเรื่องของผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ทั้งผู้ใช้แรงงานว่าได้รับการดูแลพอเพียงหรือไม่ เพราะฉะนั้นไม่ได้มุ่งไปด้านใด ด้านหนึ่ง ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง นั้นครอบคลุมหลายเรื่องด้วยกัน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ซึ่งว่าเป็นแผนที่จะนำมาพัฒนาประเทศไทย ไม่เฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องการศึกษาด้วย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในแผน ฯ 9 เน้นไปในเรื่องความรู้คู่คุณธรรม แต่ในแผน ฯ 10 เน้นไปในเรื่องคุณธรรมนำความรู้ เพราะฉะนั้นท่านก็อยากให้หลาย ๆ กระทรวงที่จะต้องทำงานร่วมกัน ทำให้สังคมกลับไปสู่ระบบคุณธรรมให้ได้ ซึ่งไม่พ้นเรื่องของการศึกษา
นายกรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงต่าง ๆ ให้ความร่วมมือ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงวัฒนธรรม ก็ต้องให้ความสนใจเรื่องของการนำคุณธรรมเข้ามามีส่วนในชีวิตให้มากที่สุด ถ้าเน้นเรื่องคุณธรรมท่านก็ให้เน้นเรื่องการปฏิบัติด้วย ในเรื่องของการสร้างจิตสำนึก ยกตัวอย่างเช่น ไม่แซงคิวกัน การให้เกียรติผู้อื่น การให้เกียรติแก่สตรี ท่านกล่าวว่าสังคมเรามีความเอื้อเฟื้อ ความอ่อนโยนต่อผู้อื่นอยู่แล้ว ด้วยพื้นฐานทางศาสนาของเรา ท่านเน้นในเรื่องของการปรับความเข้าใจ ถึงเรื่องผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา เพื่อทำให้อนาคตดีกว่าเดิม ซึ่งก็เป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา การสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าประเด็นแรกก็คือการรับฟังปัญหาต่างๆ และปรับความเข้าใจกัน พิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ยืนอยู่บนลักษณะของความสมดุล ท่านได้ให้กรอบแนวทางในการทำงานแก่คณะรัฐมนตรี 4 ประเด็นด้วยกัน ในระยะเวลา 1 ปี นับจากนี้ไป คือ 1. การทำงานด้วยความโปร่งใส 2. การทำงานด้วยความเป็นธรรม 3. ให้ดูในเรื่องของการประหยัด 4. เรื่องของประสิทธิภาพ นี่คือ กรอบที่ท่านได้ให้แนวคิดไว้สำหรับการทำงาน 1 ปีจากนี้ไป การทำงานวันที่ 1 ตุลาคม 2549 ก็สอดคล้องกับปีงบประมาณ ท่านได้พูดถึงเรื่องของการเตรียมในส่วนของงบประมาณได้ฝากเริ่มต้นให้รัฐมนตรีทุกท่านกลับไปดูในเรื่องของ โครงการต่างๆ ในกระทรวง ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่รัฐบาลจะทำงาน นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า ไม่ใช่ว่ามีผู้บริหารขึ้นมาใหม่แล้ว สิ่งเดิมที่มีอยู่เดิมแล้วจะไม่เอา นั้นไม่ใช่แนวทางของท่าน ท่านให้ผู้บริหารกลับไปดูความจำเป็น ความเร่งด่วนของโครงการ ความโปร่งใส ความเป็นธรรม ความประหยัด และประสิทธิภาพของโครงการนั้น ๆ หลายโครงการของรัฐบาลชุดที่แล้วก็เป็นโครงการที่ดี ก็ดำเนินต่อไป แต่ทั้งนี้ก็ขอให้ผู้บริหารกระทรวงกลับไปพิจารณาโครงการต่าง ๆ ตามกรอบที่ท่านให้แนวทางไว้
สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี
ร้อยเอกยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
ข้อความของร่างมติคณะรัฐมนตรี
2. เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรี
3. เรื่อง คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
4. เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 ตุลาคม 2549--จบ--
ภายหลังการประชุมร้อยเอกยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงคำปรารภของ นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีให้แนวทางการทำงานในระยะเวลา 1 ปี ของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เวลาในการทำงานของคณะรัฐมนตรีมีระยะเวลาน้อยเพียงปีเดียวเพราะฉะนั้นต้องดำเนินการต่าง ๆ โดยทันที การทำงานให้เป็นในรูปแบบบูรณาการ ซึ่งถือว่าสำคัญมาก แล้วเรื่องต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกันหลายกระทรวงก็ให้มีการหารือกันได้เลย นายกรัฐมนตรี ได้แถลงกับสื่อมวลชนในวันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ถึงเรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการ ซึ่งท่านได้แจ้งให้คณะรัฐมนตรีได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง เรื่องสถานการณ์ภาคใต้ และเรื่องปัญหาเฉพาะหน้าคือเรื่องอุทุกภัย และเรื่องอื่นๆ ที่ถือเป็นวาระเร่งด่วนต่างๆ ซึ่งต้องการความร่วมมือ ประสานงานกันในทุก ๆ ด้าน
ส่วนสำคัญที่เป็นความยุ่งยากทั้งหลายที่ผ่านมานายกรัฐมนตรได้กล่าวว่า ควรจะมีความเป็นธรรมในสังคมให้เกิดขึ้นมากกว่า ความไม่เป็นธรรมในสังคม ท่านได้ยกตัวอย่างในภาคใต้ ซึ่งมีความแตกแยกมากขึ้น ซึ่งมีความไม่เป็นธรรมในสังคมเป็นตัวเร่งทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงขึ้นในระยะหลัง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา
เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในต่างประเทศอาจจะยังไม่มีความเข้าใจเต็มที่นัก นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง ในเรื่องของหลักการเศรษฐกิจพอเพียงและได้ขอให้รองนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านประสานงานเพื่อสร้างความเข้าใจในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำภาพของเศรษฐกิจพอเพียงว่าไม่ได้หมายความว่าเราไม่ให้ความสนใจในเรื่องของ market economy แต่ว่าเรื่อง market economy จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของเรามีความสมดุล มีความยั่งยืน และก็ไม่ได้เน้นในเรื่องของการเกษตรเพียงอย่างเดียว จริง ๆ แล้วเศรษฐกิจพอเพียงก็จะครอบคลุมไปถึงองค์ประกอบส่วนอื่น ๆ ด้วย ดูแลในเรื่องของผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ทั้งผู้ใช้แรงงานว่าได้รับการดูแลพอเพียงหรือไม่ เพราะฉะนั้นไม่ได้มุ่งไปด้านใด ด้านหนึ่ง ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง นั้นครอบคลุมหลายเรื่องด้วยกัน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ซึ่งว่าเป็นแผนที่จะนำมาพัฒนาประเทศไทย ไม่เฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องการศึกษาด้วย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในแผน ฯ 9 เน้นไปในเรื่องความรู้คู่คุณธรรม แต่ในแผน ฯ 10 เน้นไปในเรื่องคุณธรรมนำความรู้ เพราะฉะนั้นท่านก็อยากให้หลาย ๆ กระทรวงที่จะต้องทำงานร่วมกัน ทำให้สังคมกลับไปสู่ระบบคุณธรรมให้ได้ ซึ่งไม่พ้นเรื่องของการศึกษา
นายกรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงต่าง ๆ ให้ความร่วมมือ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงวัฒนธรรม ก็ต้องให้ความสนใจเรื่องของการนำคุณธรรมเข้ามามีส่วนในชีวิตให้มากที่สุด ถ้าเน้นเรื่องคุณธรรมท่านก็ให้เน้นเรื่องการปฏิบัติด้วย ในเรื่องของการสร้างจิตสำนึก ยกตัวอย่างเช่น ไม่แซงคิวกัน การให้เกียรติผู้อื่น การให้เกียรติแก่สตรี ท่านกล่าวว่าสังคมเรามีความเอื้อเฟื้อ ความอ่อนโยนต่อผู้อื่นอยู่แล้ว ด้วยพื้นฐานทางศาสนาของเรา ท่านเน้นในเรื่องของการปรับความเข้าใจ ถึงเรื่องผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา เพื่อทำให้อนาคตดีกว่าเดิม ซึ่งก็เป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา การสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าประเด็นแรกก็คือการรับฟังปัญหาต่างๆ และปรับความเข้าใจกัน พิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ยืนอยู่บนลักษณะของความสมดุล ท่านได้ให้กรอบแนวทางในการทำงานแก่คณะรัฐมนตรี 4 ประเด็นด้วยกัน ในระยะเวลา 1 ปี นับจากนี้ไป คือ 1. การทำงานด้วยความโปร่งใส 2. การทำงานด้วยความเป็นธรรม 3. ให้ดูในเรื่องของการประหยัด 4. เรื่องของประสิทธิภาพ นี่คือ กรอบที่ท่านได้ให้แนวคิดไว้สำหรับการทำงาน 1 ปีจากนี้ไป การทำงานวันที่ 1 ตุลาคม 2549 ก็สอดคล้องกับปีงบประมาณ ท่านได้พูดถึงเรื่องของการเตรียมในส่วนของงบประมาณได้ฝากเริ่มต้นให้รัฐมนตรีทุกท่านกลับไปดูในเรื่องของ โครงการต่างๆ ในกระทรวง ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่รัฐบาลจะทำงาน นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า ไม่ใช่ว่ามีผู้บริหารขึ้นมาใหม่แล้ว สิ่งเดิมที่มีอยู่เดิมแล้วจะไม่เอา นั้นไม่ใช่แนวทางของท่าน ท่านให้ผู้บริหารกลับไปดูความจำเป็น ความเร่งด่วนของโครงการ ความโปร่งใส ความเป็นธรรม ความประหยัด และประสิทธิภาพของโครงการนั้น ๆ หลายโครงการของรัฐบาลชุดที่แล้วก็เป็นโครงการที่ดี ก็ดำเนินต่อไป แต่ทั้งนี้ก็ขอให้ผู้บริหารกระทรวงกลับไปพิจารณาโครงการต่าง ๆ ตามกรอบที่ท่านให้แนวทางไว้
สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี
ร้อยเอกยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
ข้อความของร่างมติคณะรัฐมนตรี
2. เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรี
3. เรื่อง คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
4. เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 ตุลาคม 2549--จบ--