คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติต่อไป ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 ตามที่คณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้ แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติเป็นแผนหลักในการบริหารจัดการอัคคีภัยและบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญของแผนฯ ได้ ดังนี้
1. วิสัยทัศน์ ประชาชน ทรัพย์สินของประชาชนและสิ่งสาธารณประโยชน์ตลอดจนสิ่งแวดล้อมต้องได้รับหลักประกันความปลอดภัยด้านอัคคีภัย ภายใต้ระบบการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อลดอัตราการเกิดอัคคีภัย และลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
2.2 เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทุกภาคส่วนในสังคม ให้เกิดความรู้ ความชำนาญ เกิดความตระหนักในความปลอดภัยด้านอัคคีภัย และเกิดความร่วมมือ ร่วมใจในการป้องกันอัคคีภัยจากประชาชนทุกระดับ
2.3 เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ สร้างระบบการป้องกันอัคคีภัยให้ได้มาตรฐาน มีความพร้อม และครอบคลุมความเสี่ยงอัคคีภัย และเกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ
2.4 เพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงทุกหน่วยงานได้โดยอัตโนมัติ รวดเร็ว และมีระบบการวิเคราะห์ประมวลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และแม่นยำ
3. เป้าหมาย กำหนดเป็น 2 ระยะ ดังนี้
3.1 เป้าหมายระยะสั้น 6 ปีแรก (พ.ศ. 2549-2554) พัฒนาศักยภาพของบุคลากร มุ่งเสริมสร้างพื้นฐานความรู้ความเข้าใจ แนวคิดและความตระหนักทางด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกภาคส่วน และพัฒนาระบบป้องกันอัคคีภัยให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้
(1) ลดจำนวนครั้งการเกิดอัคคีภัยในที่อยู่อาศัยบ้านเรือน ชุมชน โรงแรม อาคารชุด อาคารพักอาศัย ให้ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 5 ในรอบ 6 ปี (พ.ศ. 2549-2554)
(2) ลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างน้อยร้อยละ 10 ของแต่ละปี
(3) กำหนดเป็นนโยบายเกี่ยวกับระยะเวลาในการเข้าถึงจุดเกิดเหตุ โดยท้องถิ่นใดไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 8 นาที ให้ลดลงจากสถิติเดิมของตนเองอย่างน้อยร้อยละ 10 ของแต่ละปี จนกว่าจะเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด คือ ภายใน 8 นาที
3.2 เป้าหมายระยะยาว 11 ปี (พ.ศ. 2549-2559) คงไว้ในสิ่งที่ดำเนินการเป็นผลสำเร็จในระยะ 6 ปีแรก และพัฒนาให้ต่อเนื่องยั่งยืน ดังนี้
(1) ลดจำนวนครั้งการเกิดอัคคีภัยในที่อยู่อาศัยบ้านเรือน ชุมชน โรงแรม อาคารชุด อาคารพักอาศัย ให้ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 5 ในรอบ 5 ปี (พ.ศ. 2554-2559)
(2) ลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 5 ของแต่ละปี
(3) กำหนดเป็นนโยบายเกี่ยวกับระยะเวลาการเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 8 นาที
4. ยุทธศาสตร์การดำเนินงาน แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
4.1 ยุทธศาสตร์ ระยะที่ 1 ระยะ 6 ปีแรก (2549-2554) มีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
(1) ยุทธศาสตร์ในการเพิ่มการป้องกันอัคคีภัย
(2) ยุทธศาสตร์การลดความสูญเสีย
(3) ยุทธศาสตร์เพิ่มการฟื้นฟู และบรรเทาหลังจากเกิดอัคคีภัย
(4) ยุทธศาสตร์มุ่งเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาอัคคีภัย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน
4.2 ยุทธศาสตร์ ระยะที่ 2 ระยะ 11 ปี (2549-2559) ได้แก่
(1) รักษาและคงไว้ซึ่งยุทธศาสตร์ในเป้าหมายระยะสั้นภายใน 6 ปีแรกและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
(2) กำหนดนโยบายในการเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 8 นาที
(3) สร้างความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยของประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชนได้
(4) พัฒนาวิจัย ผลิต และทดสอบรับรองทรัพยากร ป้องกันอัคคีภัยได้เองอย่างเพียงพอโดยการสร้างกลไกและระบบขั้นตอนที่สามารถ สร้าง ผลิต ทดสอบ รับรองอุปกรณ์ป้องกันและระงับอัคคีภัยได้ภายในประเทศ
(5) ให้สามารถแสวงหารายได้จากด้านอัคคีภัยกลับสู่ประเทศ โดยการส่งเสริมให้มีการส่งออกสินค้าและแรงงานด้านอัคคีภัยเพื่อนำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศ และยังทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาสินค้าและบุคลากรในประเทศ
5. การแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่แผนการปฏิบัติการ เป็นการเสนอแนวทางการแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่ การปฏิบัติ ได้แก่ นำเสนอนโยบายความปลอดภัยจากอัคคีภัยในบ้านพัก (HOME FIRE SAFETY) และความปลอดภัยจากอัคคีภัยในที่ชุมชนคน (ASSEMBLY PLACE FIRE SAFETY) โดยกำหนดเป็นนโยบายระดับชาติ จัดตั้งคณะกรรมการด้านการป้องกันอัคคีภัยระดับชาติและท้องถิ่น ประสานหน่วยงานและบูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย โดยมีแนวทางในการบูรณาการกฎหมาย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างทั่วถึงและไม่ซ้ำซ้อน สร้างระบบเครือข่ายฐานข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัยรวมอยู่ในที่เดียวกัน การกำหนดภารกิจหน้าที่ของผู้อำนวยการดับเพลิงและผู้สั่งการดับเพลิง การจัดตั้งสถาบันต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และจัดโครงสร้างในการบริหารจัดการตามแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ ฯลฯ
6. การติดตามและประเมินผล เป็นแนวทางในการดำเนินการติดตามประเมินผลแผน ฯ โดยกำหนด บทบาท หน้าที่ตรวจประเมินของคณะบุคคลที่จะทำการตรวจติดตามและประเมินผล กำหนดขอบเขต หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจติดตามและประเมินผล และการจัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์แปรผลเชิงวิชาการ
7. การพัฒนาและปรับปรุงแผนแม่บท ให้มีการทบทวน พัฒนา และปรับปรุงแผนแม่บท โดยที่ปรึกษาระดับสูงจากทุกหน่วยงาน หรือคณะกรรมการป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ ทบทวนแผนปฏิบัติการทุกปีโดยอาศัยข้อมูลจากการตรวจติดตามและการประเมินผลเปรียบเทียบกับเป้าหมาย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--
ทั้งนี้ แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติเป็นแผนหลักในการบริหารจัดการอัคคีภัยและบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญของแผนฯ ได้ ดังนี้
1. วิสัยทัศน์ ประชาชน ทรัพย์สินของประชาชนและสิ่งสาธารณประโยชน์ตลอดจนสิ่งแวดล้อมต้องได้รับหลักประกันความปลอดภัยด้านอัคคีภัย ภายใต้ระบบการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อลดอัตราการเกิดอัคคีภัย และลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
2.2 เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทุกภาคส่วนในสังคม ให้เกิดความรู้ ความชำนาญ เกิดความตระหนักในความปลอดภัยด้านอัคคีภัย และเกิดความร่วมมือ ร่วมใจในการป้องกันอัคคีภัยจากประชาชนทุกระดับ
2.3 เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ สร้างระบบการป้องกันอัคคีภัยให้ได้มาตรฐาน มีความพร้อม และครอบคลุมความเสี่ยงอัคคีภัย และเกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ
2.4 เพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงทุกหน่วยงานได้โดยอัตโนมัติ รวดเร็ว และมีระบบการวิเคราะห์ประมวลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และแม่นยำ
3. เป้าหมาย กำหนดเป็น 2 ระยะ ดังนี้
3.1 เป้าหมายระยะสั้น 6 ปีแรก (พ.ศ. 2549-2554) พัฒนาศักยภาพของบุคลากร มุ่งเสริมสร้างพื้นฐานความรู้ความเข้าใจ แนวคิดและความตระหนักทางด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกภาคส่วน และพัฒนาระบบป้องกันอัคคีภัยให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้
(1) ลดจำนวนครั้งการเกิดอัคคีภัยในที่อยู่อาศัยบ้านเรือน ชุมชน โรงแรม อาคารชุด อาคารพักอาศัย ให้ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 5 ในรอบ 6 ปี (พ.ศ. 2549-2554)
(2) ลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างน้อยร้อยละ 10 ของแต่ละปี
(3) กำหนดเป็นนโยบายเกี่ยวกับระยะเวลาในการเข้าถึงจุดเกิดเหตุ โดยท้องถิ่นใดไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 8 นาที ให้ลดลงจากสถิติเดิมของตนเองอย่างน้อยร้อยละ 10 ของแต่ละปี จนกว่าจะเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด คือ ภายใน 8 นาที
3.2 เป้าหมายระยะยาว 11 ปี (พ.ศ. 2549-2559) คงไว้ในสิ่งที่ดำเนินการเป็นผลสำเร็จในระยะ 6 ปีแรก และพัฒนาให้ต่อเนื่องยั่งยืน ดังนี้
(1) ลดจำนวนครั้งการเกิดอัคคีภัยในที่อยู่อาศัยบ้านเรือน ชุมชน โรงแรม อาคารชุด อาคารพักอาศัย ให้ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 5 ในรอบ 5 ปี (พ.ศ. 2554-2559)
(2) ลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 5 ของแต่ละปี
(3) กำหนดเป็นนโยบายเกี่ยวกับระยะเวลาการเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 8 นาที
4. ยุทธศาสตร์การดำเนินงาน แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
4.1 ยุทธศาสตร์ ระยะที่ 1 ระยะ 6 ปีแรก (2549-2554) มีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
(1) ยุทธศาสตร์ในการเพิ่มการป้องกันอัคคีภัย
(2) ยุทธศาสตร์การลดความสูญเสีย
(3) ยุทธศาสตร์เพิ่มการฟื้นฟู และบรรเทาหลังจากเกิดอัคคีภัย
(4) ยุทธศาสตร์มุ่งเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาอัคคีภัย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน
4.2 ยุทธศาสตร์ ระยะที่ 2 ระยะ 11 ปี (2549-2559) ได้แก่
(1) รักษาและคงไว้ซึ่งยุทธศาสตร์ในเป้าหมายระยะสั้นภายใน 6 ปีแรกและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
(2) กำหนดนโยบายในการเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 8 นาที
(3) สร้างความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยของประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชนได้
(4) พัฒนาวิจัย ผลิต และทดสอบรับรองทรัพยากร ป้องกันอัคคีภัยได้เองอย่างเพียงพอโดยการสร้างกลไกและระบบขั้นตอนที่สามารถ สร้าง ผลิต ทดสอบ รับรองอุปกรณ์ป้องกันและระงับอัคคีภัยได้ภายในประเทศ
(5) ให้สามารถแสวงหารายได้จากด้านอัคคีภัยกลับสู่ประเทศ โดยการส่งเสริมให้มีการส่งออกสินค้าและแรงงานด้านอัคคีภัยเพื่อนำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศ และยังทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาสินค้าและบุคลากรในประเทศ
5. การแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่แผนการปฏิบัติการ เป็นการเสนอแนวทางการแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่ การปฏิบัติ ได้แก่ นำเสนอนโยบายความปลอดภัยจากอัคคีภัยในบ้านพัก (HOME FIRE SAFETY) และความปลอดภัยจากอัคคีภัยในที่ชุมชนคน (ASSEMBLY PLACE FIRE SAFETY) โดยกำหนดเป็นนโยบายระดับชาติ จัดตั้งคณะกรรมการด้านการป้องกันอัคคีภัยระดับชาติและท้องถิ่น ประสานหน่วยงานและบูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย โดยมีแนวทางในการบูรณาการกฎหมาย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างทั่วถึงและไม่ซ้ำซ้อน สร้างระบบเครือข่ายฐานข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัยรวมอยู่ในที่เดียวกัน การกำหนดภารกิจหน้าที่ของผู้อำนวยการดับเพลิงและผู้สั่งการดับเพลิง การจัดตั้งสถาบันต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และจัดโครงสร้างในการบริหารจัดการตามแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ ฯลฯ
6. การติดตามและประเมินผล เป็นแนวทางในการดำเนินการติดตามประเมินผลแผน ฯ โดยกำหนด บทบาท หน้าที่ตรวจประเมินของคณะบุคคลที่จะทำการตรวจติดตามและประเมินผล กำหนดขอบเขต หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจติดตามและประเมินผล และการจัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์แปรผลเชิงวิชาการ
7. การพัฒนาและปรับปรุงแผนแม่บท ให้มีการทบทวน พัฒนา และปรับปรุงแผนแม่บท โดยที่ปรึกษาระดับสูงจากทุกหน่วยงาน หรือคณะกรรมการป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ ทบทวนแผนปฏิบัติการทุกปีโดยอาศัยข้อมูลจากการตรวจติดตามและการประเมินผลเปรียบเทียบกับเป้าหมาย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--