คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในไตรมาสที่ 2 โดยให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ถือปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรค และแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายจ่ายลงทุน กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. แนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรค ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการ ดังนี้
1) การกำหนดคุณลักษณะ การสำรวจ ออกแบบ ขอความเห็นชอบรูปแบบ สถานที่ การจัดซื้อจัดจ้าง การจ้างที่ปรึกษา เมื่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายผ่านวาระที่ 1
2) การวางแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณต้องให้ใกล้เคียงกับที่ต้องปฏิบัติงานจริง เพื่อให้การปรับแผนในระหว่างปีน้อยที่สุด
3) ต้องปรับแผนและวิธีการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสภาพดินฟ้าอากาศ และฤดูกาล
4) ควรประเมินราคาที่ดินให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อให้ราคาสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและมีความเหมาะสม
5) จัดทำแผนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และแผนการก่อสร้าง เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับความต้องการ
6) การจัดหาผู้รับจ้าง ต้องพิจารณาความพร้อมของผู้รับจ้างทุกด้านไม่ควรพิจารณาราคาเพียงอย่างเดียว และให้ผู้รับจ้างจัดหาธนาคารค้ำประกันผลงาน เพื่อเบิกเงินประกันผลงาน และเบิกจ่ายค่า K ให้ผู้รับจ้างก่อนปลายปี งบประมาณ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดสภาพคล่องในระยะสั้น
7) ประสานงานและประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่ได้เข้าใจและมีส่วนร่วม
8) จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ จัดอบรมให้ความรู้เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกิดความชำนาญในการปฏิบัติ
2. แนวทางการผ่อนผันสำหรับรายจ่ายลงทุน กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงได้พิจารณากำหนดแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายจ่ายลงทุนให้ก่อหนี้ผูกพันภายหลังไตรมาสที่ 2 ได้ จนถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 (มิถุนายน 2549) ดังนี้
1) รายการที่อยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างก่อนสิ้นเดือนเมษายน 2549 เนื่องจาก ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 ทำให้ส่วนราชการต้องดำเนินการตามระเบียบใหม่ และต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ
2) รายการที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการเอง
3) รายการที่มีปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากปัจจัยภายนอกหรือรายการที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานอื่น
4) งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) เนื่องจากเป็นรายการที่ต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี จึงจะดำเนินการได้ ซึ่งที่ผ่านมาผ่อนผันให้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม แต่เนื่องจากขณะนี้เหลือวงเงินเพียงประมาณ 14,000 ล้านบาทที่คณะรัฐมนตรียังไม่ได้อนุมัติ จึงเห็นควรผ่อนผันให้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2549
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า จากการติดตามรวบรวมข้อมูลการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายลงทุน ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่ได้รับรายงานจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจจำนวน 172,302 ล้านบาท ปรากฏว่าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถก่อหนี้ผูกพันได้แล้วจำนวน 106,739 ล้านบาท หรือร้อยละ 61.95 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนที่ได้รับรายงานจำนวน 172,302 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 มีนาคม 2549--จบ--
1. แนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรค ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการ ดังนี้
1) การกำหนดคุณลักษณะ การสำรวจ ออกแบบ ขอความเห็นชอบรูปแบบ สถานที่ การจัดซื้อจัดจ้าง การจ้างที่ปรึกษา เมื่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายผ่านวาระที่ 1
2) การวางแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณต้องให้ใกล้เคียงกับที่ต้องปฏิบัติงานจริง เพื่อให้การปรับแผนในระหว่างปีน้อยที่สุด
3) ต้องปรับแผนและวิธีการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสภาพดินฟ้าอากาศ และฤดูกาล
4) ควรประเมินราคาที่ดินให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อให้ราคาสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและมีความเหมาะสม
5) จัดทำแผนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และแผนการก่อสร้าง เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับความต้องการ
6) การจัดหาผู้รับจ้าง ต้องพิจารณาความพร้อมของผู้รับจ้างทุกด้านไม่ควรพิจารณาราคาเพียงอย่างเดียว และให้ผู้รับจ้างจัดหาธนาคารค้ำประกันผลงาน เพื่อเบิกเงินประกันผลงาน และเบิกจ่ายค่า K ให้ผู้รับจ้างก่อนปลายปี งบประมาณ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดสภาพคล่องในระยะสั้น
7) ประสานงานและประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่ได้เข้าใจและมีส่วนร่วม
8) จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ จัดอบรมให้ความรู้เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกิดความชำนาญในการปฏิบัติ
2. แนวทางการผ่อนผันสำหรับรายจ่ายลงทุน กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงได้พิจารณากำหนดแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายจ่ายลงทุนให้ก่อหนี้ผูกพันภายหลังไตรมาสที่ 2 ได้ จนถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 (มิถุนายน 2549) ดังนี้
1) รายการที่อยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างก่อนสิ้นเดือนเมษายน 2549 เนื่องจาก ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 ทำให้ส่วนราชการต้องดำเนินการตามระเบียบใหม่ และต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ
2) รายการที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการเอง
3) รายการที่มีปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากปัจจัยภายนอกหรือรายการที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานอื่น
4) งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) เนื่องจากเป็นรายการที่ต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี จึงจะดำเนินการได้ ซึ่งที่ผ่านมาผ่อนผันให้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม แต่เนื่องจากขณะนี้เหลือวงเงินเพียงประมาณ 14,000 ล้านบาทที่คณะรัฐมนตรียังไม่ได้อนุมัติ จึงเห็นควรผ่อนผันให้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2549
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า จากการติดตามรวบรวมข้อมูลการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายลงทุน ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่ได้รับรายงานจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจจำนวน 172,302 ล้านบาท ปรากฏว่าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถก่อหนี้ผูกพันได้แล้วจำนวน 106,739 ล้านบาท หรือร้อยละ 61.95 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนที่ได้รับรายงานจำนวน 172,302 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 มีนาคม 2549--จบ--